จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความเตือนภัยผ่านกลุ่ม “ข่าวสาร-คนไทรน้อย” ถึงปัญหาผู้เช่าบ้านที่ไม่ชำระค่าเช่าและทิ้งบ้านในสภาพทรุดโทรม โดยโพสต์ประกอบด้วยภาพบ้านทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านย่านบางบัวทอง ถนนบางกรวย-ไทรน้อย จ.นนทบุรี สภาพภายในบ้านเต็มไปด้วยกองขยะและทรัพย์สินที่พังเสียหาย นอกจากนี้ ยังพบอุจจาระสุนัขกองอยู่ทั่วพื้นบ้าน โดยผู้โพสต์ระบุว่าผู้เช่าค้างค่าเช่า ค่าน้ำ และค่าไฟฟ้า รวมกว่า 20,000 บาท จากนั้นย้ายของหนีออกไปกลางดึก โดยโพสต์เตือนเจ้าของบ้านเช่ารายอื่นให้ระมัดระวังการเลือกผู้เช่า
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบสภาพบ้านในความเสียหายอย่างหนัก บริเวณหน้าบ้านเต็มไปด้วยอุจจาระสุนัข ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ภายในบ้านพบกองอุจจาระเด็ก กองขยะ เศษอาหาร และเฟอร์นิเจอร์ที่พังเสียหายหลายจุด น.ส.ซัน อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าของบ้าน ได้เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ถูกปล่อยเช่าเป็นครั้งแรก โดยเจ้าของบ้านซึ่งเป็นพี่สาวของตนตัดสินใจให้เช่า เนื่องจากย้ายไปอยู่กับตนที่บ้านหลังอื่น การเช่าครั้งนี้ผ่านการแนะนำของเพื่อนที่เป็นเอเย่นต์จัดหาผู้เช่ามาให้ ซึ่งเป็นครอบครัวหนึ่ง มีสมาชิกประมาณ 7 คน มีพ่อแม่และเด็กอีก 5 คน เมื่อผู้เช่าติดต่อมา ได้ขอเข้าพักอย่างเร่งด่วน ทำให้เจ้าของบ้านรีบทำสัญญาเช่า โดยมีเงินประกันทรัพย์สิน 12,000 บาท และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน 6,000 บาท รวมเป็น 18,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากเอเย่นต์ว่าผู้เช่าไม่สามารถติดต่อได้และค้างค่าเช่าเดือน ต.ค. 6,000 บาท เมื่อเข้าตรวจสอบบ้านจึงพบว่าผู้เช่าย้ายออกไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเศษขยะและคราบสกปรกทั่วบ้าน บริเวณหน้าบ้านพบโซ่ล่ามสุนัข 2 อัน กองอุจจาระสุนัขกว่า 3-4 กอง ส่วนในบ้านมีกองอุจจาระเด็กติดอยู่กับกางเกง และมีกองขยะน้ำท่วมขังในห้องครัว และกลิ่นเหม็นจากเศษอาหารที่สะสมอยู่ในซิงค์ล้างจาน แมลงวันตอมทั่วบริเวณ ชั้นสองของบ้านก็พบความเสียหายมากมาย ห้องน้ำเต็มไปด้วยคราบสกปรก เครื่องสุขภัณฑ์ชำรุด พื้นเต็มไปด้วยเศษขยะ ห้องนอนมีเตียงและตู้เสื้อผ้าชำรุด ผ้าม่านขาดเป็นรูจากการกัดของสุนัข และยังพบขวดน้ำพลาสติกซึ่งคาดว่าใส่ปัสสาวะไว้บนตู้เสื้อผ้า
น.ส.ซัน กล่าวเพิ่มเติมว่า พี่สาวตนไม่เคยคาดคิดว่าผู้เช่าจะทิ้งบ้านในสภาพนี้ หลังจากตรวจสอบค่าน้ำและค่าไฟฟ้า พบว่าผู้เช่าค้างชำระรวมกว่า 12,000 บาท นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำใหม่อีก 2,000 บาท แม้ว่าผู้เช่าจะโอนค่าไฟมาให้ 4,000 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับยอดที่ค้างอยู่ทั้งหมด ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านต้องรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอง ตนและพี่สาวไม่คิดว่าจะต้องพบเจอปัญหาเช่นนี้ จึงไม่เคยเข้ามาตรวจสอบบ้านบ่อยนัก เพราะระยะเวลาที่ปล่อยเช่าแค่เพียงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น
“หลังจากเห็นสภาพบ้าน ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง แต่ตำรวจแจ้งว่าเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา ทำได้เพียงบันทึกประจำวัน ตำรวจยังกล่าวด้วยว่า “เรื่องนี้เป็นความทุกข์ของคนมีตังค์” ทำให้รู้สึกแย่เพราะไม่ได้มีฐานะ หากมีก็คงไม่ต้องปล่อยบ้านให้เช่า และยังถูกแนะนำว่าให้นำเงินไปซ่อมบ้านแทนการจ้างทนาย แม้จะพยายามติดต่อผู้เช่า แต่กลับถูกบล็อกเบอร์ไปแล้ว สุดท้ายจึงได้นำเรื่องนี้มาร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อเตือนเจ้าของบ้านเช่ารายอื่นๆ ให้ระมัดระวัง และตรวจสอบประวัติผู้เช่าให้ละเอียดเพื่อป้องกันปัญหา ยังฝากถึงผู้เช่ารายนี้ว่าควรรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งประเมินเบื้องต้นน่าจะสูงถึงเกือบแสนบาท” น.ส.ซัน กล่าว