นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า แม้ปีนี้จะเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือน แต่ยังมองว่าทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย หากมีปัจจัยสนับสนุนที่แรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เช่น หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบถัดไปลดลงมากกว่า 0.25% ก็จะสนับสนุนให้ทองคำไปได้ถึง 2,800-2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
รวมถึงหากมีปัจจัยความไม่สงบหรือเหตุปะทะในตะวันออกกลางบานปลาย และในสัปดาห์หน้าจะมีการเลือกตั้งสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มกรอบการแกว่งตัวให้ราคาผันผวนมากขึ้น โดยเป้าหมายของราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 44,800-45,600 บาทต่อบาททองคำ แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำปีนี้ปรับตัวขึ้นมาไกลมากแล้ว หากทองคำไปถึงแนวต้านแนะนำให้แบ่งขายทำกำไร และหากราคาขยับไปถึงเป้าหมาย 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ให้ระวังแรงขายรอบใหญ่
“เรื่องการเลือกตั้งสหรัฐนั้น มองว่ายังคาดการณ์ได้ยาก เพราะผลการเลือกตั้งยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งหากฝั่งพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ภาพรวมทิศทางทองคำน่าจะดำเนินต่อไปเช่นในปัจจุบัน เนื่องจากทางพรรคน่าจะยังคงการเดินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่หากพรรครีพับลิกันชนะจะยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดทองคำได้ เพราะมีโอกาสเป็นได้ทั้งการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายของพรรคจะเป็นการชูแคมเปญอเมริกาต้องมาก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดการขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า และนโยบายที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อกลับมา”