สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า บรรยากาศของการประชุมโครงการลงทุนเพื่ออนาคต (เอฟไอไอ) ถูกบดบังด้วยสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซา และการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน
แม้นายมูฮัมหมัด อัล-จัสเซอร์ ประธานธนาคารพัฒนาอิสลาม (ไอเอสดีบี) และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางซาอุดีอาระเบีย (เอสเอเอ็มเอ) กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเป็น “จุดสว่างในภูมิภาค” แต่เขาก็ชี้ให้เห็นว่า สงครามที่ดำเนินอยู่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งศักยภาพที่รอการดึงออกมาใช้ ก็หายไปกับความขัดแย้งและความไม่แน่นอน
ด้านนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.การลงทุนของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการสู้รบในภูมิภาค รวมถึงการโจมตีของกลุ่มฮูตีในเยเมน ต่อเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
ทั้งนี้ เอฟไอไอ เปิดตัวเมื่อปี 2560 ในฐานะโครงการที่แสดงถึงความฝันของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ที่มุ่งหวังกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากน้ำมัน
ขณะที่ นายยาซีร์ อัล-รูมายยาน ผู้ว่าการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (พีไอเอฟ) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า กองทุนจะลดสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ หลังทำข้อตกลงที่ดึงดูดความสนใจมานานหลายปี ทั้งในด้านกีฬา และความบันเทิง
อนึ่ง รูมายยาน อธิบายถึงการเติบโตของพีไอเอฟ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโดยประมาณ ว่าส่วนแบ่งการลงทุนระหว่างประเทศของพีไอเอฟ เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 2% เป็น 30% ซึ่งในตอนนี้ เป้าหมายของกองทุนคือการลดส่วนแบ่งข้างต้น ให้อยู่ที่ 18-20% โดยไม่ระบุกรอบเวลา.
เครดิตภาพ : AFP