เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการปฏิบัติงานให้แก่กองทัพอากาศ ซึ่งเป็นการตรวจเยี่ยมอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเข้าดำรงตำแหน่ง โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้การต้อนรับ  โดยกองทัพอากาศได้จัดพิธีต้อนรับ โดยการรับการเคารพจากแถวกองทหารเกียรติยศ พิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ทหารอากาศ การวางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ และร่วมลงนามในสมุดเยี่ยม พร้อมทั้งรับมอบเครื่องหมายความสามารถในการบินชั้นกิตติมศักดิ์ 

จากนั้นรมว.กลาโหม ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของกองทัพอากาศ ที่ห้องประชุมกองทัพอากาศ  ต่อมารมว.กลาโหม กล่าวชื่นชมศักยภาพ ประสิทธิภาพ และความพร้อมของกองทัพอากาศ ภายใต้การนำของผู้บัญชาการทหารอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ การรักษาอธิปไตยน่านฟ้าไทยและผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ และได้กล่าวชื่นชมบทบาทที่ผ่านมาของกองทัพอากาศที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความทุ่มเท เข้มแข็ง เสียสละ มีความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นที่เชื่อมั่นศรัทธาของประชาชนในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการพิทักษ์ ปกป้อง เทิดทูนสถาบัน ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักที่กองทัพอากาศได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในทุกโอกาส รวมทั้งการจัดอากาศยานเพื่อเป็นราชพาหนะ และการถวายความปลอดภัยมาโดยต่อเนื่อง ด้านการป้องกันประเทศและรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ ในการจัดหน่วยบินเตรียมพร้อมเพื่อคุ้มครองน่านฟ้าไทย และหน่วยควบคุมทางอากาศยุทธวิธี เพื่อประสานและสนับสนุน

รมว.กลาโหม กล่าวต่อว่า การปฏิบัติการทางอากาศให้แก่กำลังทางบกและกำลังทางเรือ ด้านการสนับสนุนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจัดตั้งกองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 เพื่อลาดตระเวนและเฝ้าตรวจทางอากาศ สนับสนุนหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ซึ่งผลการปฏิบัติที่ผ่านมา สามารถสนับสนุนการปฏิบัติได้เป็นอย่างดีและประสบผลสำเร็จ ด้านการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ การเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลและอากาศยานเพื่อช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งเป็นกำลังหลักในการแก้ไขปัญหาภัยอุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยในทุกสถานการณ์เป็น “กองทัพอากาศที่อยู่เคียงข้างประชาชน” 

รมว.กลาโหม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้เน้นถึงความสำคัญในการดูแลสวัสดิภาพและความปลอดภัยของกำลังพลทุกนาย ที่ปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ซึ่งการดูแลกำลังพลให้มีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ภารกิจอื่น จากนั้นรมว.กลาโหม รับมอบของที่ระลึกจากผู้บัญชาการทหารอากาศ และเยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานในห้วงปี 2567 ที่ผ่านมาอีกด้วย.