สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่านางจูลี บิชอป ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเมียนมาของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการของยูเอ็น ว่าเธอเดินทางไปยังเมียนมา “เมื่อไม่นานมานี้” และมีโอกาสเข้าพบพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ผู้แทนรัฐบาลแห่งชาติ (เอ็นยูจี) หรือรัฐบาลเงา และผู้แทนพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนางออง ซาน ซูจี


ทั้งนี้ บิชอปซึ่งเป็นอดีตรมว.การต่างประเทศออสเตรเลีย เรียกร้องคู่กรณีทุกฝ่ายในเมียนมา เลิกแนวคิด “ผลลัพธ์รวมศูนย์” หรือ “การเอาชนะอย่างเด็ดขาด” เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนความพยายาม เพื่อให้เกิดความก้าวหน้า ในการคลี่คลายความขัดแย้ง


ขณะเดียวกัน บิชอปแสดงความวิตกกังวล ว่าเมียนมาจะกลายเป็น “วิกฤติที่ถูกลืม” ท่ามกลางสถานการณ์เลวร้าย ที่ประชาชนมากกว่า 3.4 ล้านคน ต้องไร้ที่อยู่อาศัยเพราะความรุนแรงของการสู้รบ คุณภาพชีวิตของชาวเมียนมากำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติ ระดับรุนแรงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


นอกจากนี้ ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นแสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลของเครือข่ายอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่ใช้เมียนมาเป็นฐาน “กำลังอยู่ในระดับที่ควบคุมไม่ได้” ซึ่งความรุนแรงของการสู้รบเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้อาชญากรรมในเมียนมาขยายตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การค้าอาวุธ การค้ายาเสพติด และเครือข่ายการหลอกลวงข้ามชาติ.

เครดิตภาพ : AFP