ในที่สุด การจัด ครม.สัญจรนัดแรกก็ออกกำหนดการมา ตามที่ “นายกฯ อิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เคยปรารภว่า “จะไปดูพื้นที่ที่เคยประสบภัยน้ำท่วม” คือไปเชียงใหม่กับเชียงราย ในการประชุม ครม.วันที่ 29 ต.ค. นายกฯ อิ๊งค์แจ้งรัฐมนตรีทุกคนวางแผนล่วงหน้าในการเดินทางไปประชุม ครม.สัญจร ให้รัฐมนตรีจัดตารางลงพื้นที่ให้กระจายครอบคลุม อำเภอ และตำบลต่างๆ การประชุม ครม.สัญจรจะจัดในวันศุกร์ที่ 29 พ.ย. จากนั้น นายกฯ และรัฐมนตรี ลงพื้นที่เชียงใหม่ 30 พ.ย. ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.
เรื่องการนิรโทษกรรมก็ยังพูดกันไม่จบ ขณะนี้หลายฝ่ายจับตาท่าทีของพรรคเพื่อไทย นายกฯ อิ๊งค์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวแบ่งรับแบ่งสู้ว่า เพื่อไทยจะเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประกบ 4 ร่างเดิมในสภาหรือไม่ คงต้องพูดคุยกันก่อนในส่วนของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคว่าจะเป็นอย่างไร และขอให้ความมั่นใจว่า เมื่อเปิดประชุมสภาสมัยหน้าใน วันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะมีข้อสรุปในเรื่องนี้
“การนิรโทษกรรมนั้นแน่นอนว่าต้องไม่แตะคดีตาม ม.112 เพราะเป็นสิ่งที่เราย้ำมาตลอด เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล ก็ตกลงว่าจะไม่มีการแตะหมวด 1 และหมวด 2 อันนี้ชัดเจน” นายกฯ กล่าว
“ใบพลู” รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณี “รองอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่เห็นชอบกับการนิรโทษกรรมคดี ม.112 ว่า พรรคเพื่อไทยเคยสัญญาว่าจะคลี่คลายปัญหาของคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการเมือง ควรมองว่า ไม่ว่าจะโดนด้วยข้อหาอะไร ถ้าเป็นคดีการเมือง ก็ควรได้รับการนิรโทษกรรม
“การดำเนินคดีการเมืองโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องยอมรับว่า บางครั้งก็ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง หรือเพราะสถานการณ์ที่บีบคั้นทำให้ผู้ชุมนุมพูดเกินเลยไป จึงต้องดูเจตนา ที่ต้องคิดคือประเทศเราได้อะไรจากการดำเนินคดี ม.112 นายภูมิธรรมเป็นคนเดือนตุลา ซึ่งการชุมนุมปี 2563 การต่อสู้ของภาคประชาชน ไม่เห็นตัวเองในนั้นบ้างเลยหรือ หลายคนที่มาเป็นนักการเมืองในวันนี้ หากไม่ได้รับการนิรโทษกรรมก็ไม่สามารถมายืนตรงนี้ได้”
“เอิร์ธ” ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ประธานวิปฝ่ายค้าน ย้ำว่า “หลายเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเคยพูด ไม่ว่าจะเป็นในสมัยที่แล้วก่อนเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าด้วยข้อจำกัดอะไรที่ทำให้วันนี้เปลี่ยนแปลงไป ตกลงว่า จุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมืองที่ต่อเนื่องมายาวนาน จะเป็นอย่างไร” และ สส.เอิร์ธยังท้าให้จับตาดูการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรค ปชน. จะล้างข้อครหาเป็นมิตรกับเพื่อไทย
ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สส.เอิร์ธมองว่า พรรค ปชน. คงเสนอช่วงต้นของสมัยประชุมหน้า เราไม่ได้เร่งรีบมาก แต่หากเป็นเรื่องร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่มี กมธ.ร่วมพิจารณาระหว่าง สส.,สว. น่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นในช่วงปิดสมัยประชุม น่าจะจำเป็นที่จะต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ กมธ.ร่วมจะพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 30 ต.ค. หากดูเนื้อหาแล้วมีความตั้งใจจริงวันเดียวก็คงพิจารณาเสร็จ สำหรับภาพรวมการทำงานฝ่ายค้านค่อนข้างน่าพอใจ ต้องยอมรับว่าในสมัยประชุมนี้มีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เราก็บริหารจัดการได้ อาจจะราบรื่นบ้าง ไม่ราบรื่นบ้าง
ส่วนประเด็นอื่นๆ ทางการเมือง อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจนิด้าโพลที่มีประชาชนกว่า 57% ระบุว่ารัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบเทอม ว่า ไม่น่าจะไปสนใจอะไรประเด็นนี้ บางครั้งเวลาเลือกตั้ง โพลได้ถึง 85% ก็ยังแพ้ เอาแน่เอานอนบางเรื่องบางราวไม่ได้ เรื่องนี้ยังไม่ต้องวิเคราะห์ เพราะว่ายังอีกนานกว่าจะเลือกตั้ง
ส่วนเรื่องปัญหา “นักร้อง” นายสมศักดิ์แสดงความเสียดายว่า “เคยนำเสนอไว้ตั้งแต่สมัยเป็น รมว.ยุติธรรม เรื่องกฎหมาย Law of efficiency (ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย) แต่ไม่สำเร็จ บางครั้งการร้องเรียนในเรื่องที่ไม่ได้ทำผิด ผู้ร้องก็จะต้องรับผิดชอบกับการกระทำ ไม่ใช่ว่าพูดไปได้เรื่อยเฉื่อย”
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาที่พรรคร่วมรัฐบาลมักขวางนโยบายของพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนเลือกตั้ง ก็อยากจะให้ประชาชนเลือกพรรคของเราให้ได้มากกว่า 50% ของจำนวน สส. เพราะจะทำให้เกิดความคล่องตัว ไม่ต้องระมัดระวังอะไร
“ทีมข่าวการเมือง”