น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี หารือกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถาบัน (กกร.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล นำโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ในฐานะประธาน กกร. และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย และนายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงาน กกร. ซึ่งก่อนเริ่มหารือนายสนั่นได้มอบ สมุดปกขาว ข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศจัดทำโดย กกร. ให้กับนายกรัฐมนตรี

ขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลทำมีเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ และมีความร่วมมือกับเอกชนจำนวนมากเพราะมองว่าเอกชนคือภาคสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มและสนับสนุนประชาชนด้วยจึงอยากจะให้รัฐกับเอกชนทำงานร่วมกันเยอะขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจและโอกาสใหม่ๆให้กับประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก  วันนี้รัฐบาลพร้อมที่จะซัพพอร์ตรับฟังจากภาคเอกชน เพื่อให้สามารถปรับให้เข้านโยบายของรัฐบาลต่อไป

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ดีใจที่ได้เจอที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งเพราะได้เจอครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยก่อนแถลงนโยบายรัฐบาล ก็อยากพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน  ซึ่งครั้งที่แล้วก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าประเทศไทยประสบปัญหาเรื่องศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี  และแน่นอนว่าผลกระทบนี้ส่งผลถึงประชาชนมีหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น  อยากให้ภาครัฐและภาคเอกชนได้พูดคุยร่วมมือกัน เราไม่สามารถจะพูดได้แค่เรื่องการปรับโครงสร้างหนี้อย่างเดียวที่เป็นปัญหา แต่ต้องมีการหารายได้ใหม่เข้าสู่ประเทศถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจโตได้

“จะติดตามดำเนินการตามนโยบายต่างๆในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ทำไว้ดีอยู่แล้วให้เกิดความต่อเนื่องไม่ให้เกิดความสะดุด ซึ่งทีมงานยังคงเป็นทีมงานเดิม พร้อมขอบคุณคำแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของกอกอกอรอและเห็นด้วยที่จะมีการนัดหารือกันในลักษณะนี้ต่อไป  โดยเฉพาะการประชุมหน้าต่อหน้า เพื่อจะให้มีการเพิ่มเติมข้อมูลเข้าไปอีก” น.ส.แพทองธาร กล่าว

นายสนั่น  กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายและปัญหาหลากหลายมิติ  กกร.จึงได้ระดมความคิดเห็นจากภาคธุรกิจในสาขาต่างๆ จัดทำเป็นสมุดปกขาวเสนอให้รัฐบาลพิจารณาดำเนินการทั้งในระยะเร่งด่วนระยะกลาง  และระยะยาว  โดยมีทั้งหมด 4 ประเด็น ได้แก่  การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  การช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  หรือ SMEs การบริหารจัดการน้ำและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ระยะเร่งด่วน  เสนอมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชน ลดต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งการควบคุมราคาสินค้าพื้นฐาน และบริการที่จำเป็น  ตรึงราคาค่าไฟ น้ำมันดีเซล  เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ และลดภาระประชาชน รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ  โดยเอกชนขอให้เป็นไปตามกลไกของคณะอนุกรรมการไตรภาคี  

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจควรแยกวิธีให้เหมาะสมและใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพโดยมุ่งเป้ากระตุ้นไปยังกลุ่มเปราะบาง ถือเป็นสิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้ว  ขณะที่ประชาชนกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อสามารถดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะโครงการคูณสองเพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลไม่จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณมาก สำหรับกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงสามารถออกมาตรการดึงการจับจ่ายใช้สอยให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเช่น มาตรการทางภาษี  ที่รัฐไม่ต้องใช้งบประมาณเลย

นายสนั่น กล่าวว่า ในปีหน้าจะต้องช่วยกันทำให้จีดีพีเติบโตขึ้น 4% และให้คำมั่นว่าสามารถเรียกใช้กกร.ได้   โดยนายสนั่นยังชื่นชมว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาเศรษฐกิจเก่งที่สุด พร้อมเชื่อมั่นในรัฐบาลแพททองธาร