เมื่อวันที่ 27 ต.ค. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางพูดคุยเจรจากับพรรครัฐบาลอย่างไร เพื่อไม่ให้ร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคประชาชน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ถูกคว่ำในอนาคต ว่า ท่าทีของพรรครัฐบาลสวิงตลอด ทั้งการโหวตกฎหมายต่างๆ มีความไม่แน่นอนเรื่องความเป็นเอกภาพด้านจุดยืนและนโยบายของรัฐบาล ชัดขึ้นมากในสภา ช่วง 2 สัปดาห์มานี้
เมื่อถามว่าจะแก้เกมอย่างไรต่อกรณีที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทยและฝ่ายอนุรักษ์ อย่างพรรคภูมิใจไทย ไม่เคยสนับสนุนร่างที่พรรคประชาชนเสนอ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในบางกรณี สส.พรรครัฐบาลเห็นชอบด้วย เช่น กฎหมายสมรสเท่าเทียม กฎหมายอากาศสะอาด ไม่ใช่ถูกคว่ำทั้งหมด แต่ก็ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ในวาระที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือมากนัก จากพรรครัฐบาล นี่จึงเป็นความท้าทาย ทั้งนี้ ถ้าเรามั่นใจในจุดยืนว่ากฎหมายของเราเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แก้ปัญหาได้จริง เราจึงมีหน้าที่ยืนยันจุดยืนดังกล่าว และเสนอกฎหมายเข้าสภา รวมถึงมีหน้าที่ในการเปลี่ยนใจคน ทำงานเชิงความคิดต่อไป ซึ่งวิธีการที่จะเปลี่ยนใจสส.ฝ่ายรัฐบาลได้ดีที่สุด คือการเปลี่ยนใจคนนอกสภา ทำงานเชิงความคิด ถ้าประชาชนเห็นด้วยกับวาระของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ เสียงประชาชนจะเป็นพลังส่งเข้าไปในสภา เปลี่ยนใจ สส.รัฐบาลได้ ย้ำทำงานกับประชาชนนอกสภา ขยายแนวร่วมนอกสภา เพื่อหวังว่าการสนับสนุนที่เราได้มากขึ้นนอกสภา จะแปรมาเป็นท่าทีที่เปลี่ยนแปลงของสส.รัฐบาล ในสภา
เมื่อถามว่าถ้าในสมัยประชุมหน้า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอโดย นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกคว่ำอีก จะไม่หวั่นไหวถึงขั้นต้องลดเพดานรายละเอียดบางช่วงที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถ้าเราเชื่อในจุดยืนที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาประเทศ เป็นหน้าที่ของเราในการเดินหน้า และพยายามจะเพิ่มแนวร่วม ทำงานเชิงความคิดกับสังคมเหมือนเดิม และพยายามโน้มน้าวให้สส.พรรครัฐบาลมาเห็นชอบด้วย ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ร่างกฎหมายของเราถูกคว่ำในสภา
เมื่อถามย้ำว่าสรุปว่าไม่ลดเพดานใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า “ใช่ครับ” ถ้าไปดูคิวการพิจารณา คาดว่า ถ้าเปิดสมัยประชุมสภากลับมา กลางเดือน ธ.ค. ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม อยู่คิวอันดับต้นๆ คือคิวที่ 6 ดังนั้น เราเชื่อว่า น่าจะเข้าสภา ไม่นานหลังจากเปิดสมัยประชุมกลับมา และคาดหวังว่า พรรคการเมืองไหน ที่ยังไม่เสนอร่างตัวเองเข้ามา ก็ควรเสนอเข้ามาประกบเพื่อให้ทุกร่างพิจารณาพร้อมกันได้
