เมื่อวันที่ 27 ต.ค. น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความคิดเห็นโดย “นิด้าโพล” ที่ระบุว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 41.68 เชื่อว่ารัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570  ว่า ต้องดูว่าอีกร้อยละ 58 เต็มไปด้วยสาเหตุอะไร เนื่องจากสาเหตุหลักที่มีคนพูดถึงมากที่สุด คือการที่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ตามที่สัญญาไว้ และตนยังคิดว่าพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย น่าจะเร่งเดินหน้า ทำให้เศรษฐกิจกลับมาดี หากเราสังเกตดูตั้งแต่ตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธารมา ได้มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา แต่จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีการเริ่มประชุม และการสัญญาที่บอกว่า จะมีการเริ่มประชุมช่วงปลายเดือนนั้น ก็ยังไม่มีการประชุมสักที

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ขณะเดียวกัน นโยบายที่มีก็ยังเป็นนโยบายเดิมที่ทำมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เช่น แจกเงินสดให้กับกลุ่มเปราะบาง และหลายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ยังไม่เห็นถึงความชัดเจน รวมถึงโครงการใหม่ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการแก้หนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่จนทุกวันนี้ เราก็ยังคงไม่เห็นอย่างเป็นรูปธรรม ของการแก้ปัญหานี้ แต่ยังพอมีเวลา ขอให้รัฐบาลเร่งออกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้น และการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาว ออกมาให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งก็น่าจะสามารถยืดระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลนี้ไปได้อีก และทำให้ไม่จำเป็นต้องยุบสภาก่อนที่จะอยู่ครบเทอม

เมื่อถามถึงความไม่ชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนยังเฝ้ารออยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งทั้งหลายทั้งปวง หากฟังจากคำพูดของรมว.คลัง และรมช.คลัง  ที่เห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาก่อนนั้น แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีการประชุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะมีการนัดประชุมไปแล้ว ก็กลับถูกยกเลิกไปก่อน

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ประชาชนยังเฝ้ารออยู่ เพราะการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟสแรก ไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาชีวิตชีวาเท่าที่ควร จึงยังรอแนวทางแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนในระยะต่อไป รวมถึงคนที่ยังไม่ได้รับสิทธิในตอนนี้ ก็ยังคงรอคำตอบว่า จะได้หรือไม่ได้อย่างไร ขอให้รีบแสดงความชัดเจนออกมา เพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องความเชื่อมั่นล้วนๆ และรัฐบาลนี้ ก็มีแต้มต่อเรื่องชื่อเสียง ในการที่เคยทำให้เศรษฐกิจดีได้ ก็อย่าให้เสียชื่อ ต้องรีบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องเงินเฟ้อ ขณะนี้อาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ค่าครองชีพขึ้นแล้วไม่ลง จึงจำเป็นจะต้องมีงบประมาณที่จะมาชดเชยเยียวยา หรือช่วยเหลือประชาชนในระยะที่ค่าครองชีพยังสูงอยู่ ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และเศรษฐกิจฐานราก ที่อาจต้องมีการกระตุ้นรอบใหม่หรือไม่อย่างไร เนื่องจากงบประมาณที่ใช้ไปก่อนหน้านี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา และอาจจะต้องไปดูในเรื่องอื่นก่อน เช่นการแก้หนี้ เพราะไม่อย่างนั้น ใส่เงินลงไปเท่าไร คนก็เอาไว้ใช้หนี้หมด

เมื่อถามว่าหากยังจัดการไม่ดี จะทำให้เป็นตัวมัดในการล้มรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า แน่นอน เป็นอย่างที่ประชาชนได้ให้ความเห็นเอาไว้ ว่านี่จะเป็นสาเหตุแรกที่ทำให้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร อยู่ไม่ครบเทอม บางคนบอกว่า เป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้ไม่สามารถทำได้ตามที่หาเสียงไว้ ก็เป็นไปได้ที่สุดท้ายพอไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้ เศรษฐกิจไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่โฆษณา สุดท้ายความนิยมจากประชาชนก็คงจะถดถอยลงเรื่อยๆ และเป็นสาเหตุที่อาจจะต้องยุบสภาก่อนอยู่จนครบวาระ