เมื่อวันที่ 26 ต.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากกรณีปรากฏคลิปข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับบุคคลเพศหญิง อายุ 21 ปี ที่พูดไทยไม่ชัด แต่พบว่ามีบัตรประจำตัวประชาชน และสามารถลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลได้ โดยในคลิปข่าวดังกล่าว บุคคลที่ปรากฏในคลิประบุว่า ใช้เวลาทำบัตรประชาชน 3 เดือน ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ไม่นิ่งนอนใจ เร่งตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่ปรากฏในคลิปข่าวดังกล่าว โดยได้พบในฐานข้อมูลของกรมการปกครองว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยเกิด เนื่องจากบิดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย และเกิดในประเทศไทย ส่วนมารดาเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา โดยบุคคลดังกล่าวเกิดที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย มีการแจ้งเกิดเมื่อ ก.ค. 2546 

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อเท็จจริงว่าบุคคลตามคลิปข่าว ได้ขอมีบัตรประชาชนครั้งแรกเมื่ออายุเกิน 15 ปีแล้ว จึงต้องมีการตรวจวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับบิดา ซึ่งฐานข้อมูลของสำนักทะเบียนพบว่า หน่วยนิติเซโรวิทยาศาสตร์ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รายงานการตรวจวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในคลิปข่าวกับบิดา ไปยังนายอำเภอธัญบุรี ซึ่งเป็นนายทะเบียนผู้ออกบัตรแก่ผู้ขอมีบัตรประชาชน เมื่อเดือน ก.ค. 67 ว่า ไม่พบข้อขัดแย้งของความเป็นบิดาและบุตร จากการตรวจดีเอ็นเอ ดังนั้น ตามกฎหมายบุคคลดังกล่าวจึงถือเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยเกิด และได้รับสิทธิตามกฎหมายในฐานะคนไทย ตาม พ.ร.บ.สัญชาติ มาตรา 7 (1) ที่ได้กำหนดว่าบุคคคลซึ่งเกิดโดยบิดา หรือมารดาซึ่งมีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรย่อมได้สัญชาติไทยโดยเกิด.