นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ของคนในวงการบันเทิง หลังจากพระเอกสุดหล่อ “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” ได้ทำเซอร์ไพร้ส์แฟนสาวนอกวงการอย่างสาวสวยที่ชื่อ “โฟม” แต่งงานแล้ว หลังผ่านอะไรด้วยกันมานานกว่า 10 ปี ล่าสุด เจมส์ จิรายุ ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว ONE BANGKOK ที่สวนลุมพินี จึงได้มีโอกาสเปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชน เล่าโมเมนต์การตัดสินใจขอแฟนสาวแต่งงานด้วย

เจมส์ จิรายุ เผยว่า “โมเมนต์นั้นเอาจริงๆ เรียกว่าเซอร์ไพร้ส์แล้วกันครับ ไปเซอร์ไพร้ส์เขา เราจะขอเขาแต่งงานแล้ว คือเอาจริงๆ แล้วผมคิดเรื่องนี้ แล้วก็คุยเรื่องนี้มาสักระยะหนึ่ง แต่ด้วยความที่ทุกอย่างมันดูจะไม่ลงตัวเท่าไหร่ งานยังค้างอีกเยอะมากๆ ก็เลยยังไม่ได้สักที เอาจริงๆ ตอนนั้นโฟมบอกว่าจะไม่แต่งเลยก็ได้ คือเขาเห็นว่าเรากังวลและงานยังเต็มไปหมดเลย เรารู้สึกว่าสิ่งที่อยากขอเขา หรือขอเขาแต่งงาน ผมรู้สึกว่า ผมอยากให้เกียรติเขาแสดงความรักให้กับเขา ว่าเราแคร์เขานะ เรารักเขา ส่วนวินาทีตอนคุกเข่า คือในคลิปไม่มีตอนที่คุกเข่า คือผมคุกเข่าไปแล้ว แล้วเขาก็เดินหนี คือเขาไม่รู้ตัว แล้วเขาก็เดินหนีไป แต่เขาบอกว่าไม่คุกเข่าได้ไหม คือเขาเขิน ซึ่งปกติชีวิตผมไม่เคยเซอร์ไพร้ส์อะไรเขาได้เลย แต่ว่าครั้งนี้เซอร์ไพร้ส์เขาได้แล้ว เขาเขินจริงๆ ก็เดินหนีไปแล้วก็เดินกลับมา จริงๆ ตอนนั้นตื่นเต้นมากครับ แบบมือสั่น ก็เลยขอเขาไป ประโยคตอนนั้นผมพูดกับเขาว่า ขอโทษที่ช้าอย่าโกรธพ่อนะ แต่งงานกับพ่อนะครับ

คือประโยคที่พูดมันผุดขึ้นมา ณ ตอนนั้นด้วย แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่าด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป มันจะทำร้ายจิตใจเขาไหม ก็เลยขอโทษที่ช้า ความรู้สึกยิ่งกว่าในละครอีกครับ มือสั่นไปหมดเลย (แต่ว่าเราผ่านฉากการขอแต่งงานมาหลายเรื่องแล้วนะ?) ผมก็คิดอย่างนั้นนะ คือตอนแรกผมคิดว่ามันชิลมาก เพราะว่าเราคุกเข่าขอแต่งงานในละครไม่รู้กี่เทคแล้ว เราขอแต่งงานในละครกี่เรื่องต่อกี่เรื่อง พอมาเจอของจริงก็สั่นเหมือนกันครับ แบบตื่นเต้นครับ ณ โมเมนต์นั้นเขาไม่รู้ตัวครับ พอเราขอเสร็จ เขาบอกว่า เนี่ยเดี๋ยวรูปก็จะต้องออกไป ยังติดกิ๊บคิตตี้อยู่เลย เล็บก็ยังไม่ทำเลย คือเขาไม่รู้ตัวจริงๆ โมเมนต์ตอนที่คุกเข่าลงไปแล้วแล้วเขาเดินหนีไป คือเรารู้เลยว่าตอนนั้นเขารู้แล้วว่าเซอร์ไพร้ส์จริง แล้วก็เขินจริงด้วย ปกติที่เราเห็น ก็รู้สึกว่าดีใจจังเลยที่เขาเซอร์ไพร้ส์กับสิ่งนี้ ส่วนเรื่องโลเคชั่นที่เลือกที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้เราชอบไปเที่ยวที่นี่ มันคือที่สวนผึ้ง เราก็รู้สึกว่าเราชอบบรรยากาศนี้มากๆ เราก็เคยคุยกัน แล้วเคยคิดว่าถ้าเกิดเรามีโอกาสได้แต่งงานกันที่นี่ มันคงเป็นที่ที่น่ารักดี (แสดงว่าเราจะไปแต่งที่นู้นเลย?) ก็มีการคุยกัน”

เจมส์ จิรายุ เผยต่อว่า “ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการบอกครอบครัวก่อนครับ ก็บอกครอบครัวผม แล้วก็คุยกันว่าเดี๋ยวผมจะขอเขาแต่งงานแล้วนะ (ครอบครัวก็เก็บเป็นความลับ?) ใช่ๆ คือเขาเป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นได้ในหลายๆ เรื่อง เขาจะเป็นคนที่อยู่ข้างหลัง ที่คอยเห็นว่าผมเนี่ยเป็นคนคิดเยอะนู่นนี่นั่น คือทุกอย่างที่เขาซัพพอร์ตมา มันก็พิสูจน์ด้วยระยะเวลาที่อยู่ด้วยกัน และเขาสามารถเข้าใจผมได้ (ที่พูดขอโทษว่าให้รอนาน จริงๆ มีความคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นคนนี้?) จริงๆ มีความคิดอยู่แล้วนะ คือเหมือนตอนคุยกันแรกๆ มันจะมีความหวือหวาประมาณหนึ่ง แต่พอระยะเวลามันผ่านไปและมันผ่านเรื่องราวแบบเยอะแยะไปหมดเลย แล้วเราก็รู้สึกว่าคนนี้แหละ คือคนที่เราจะประคองและมีชีวิตด้วยกันไปอีกเรื่อยๆ ส่วนเรื่องแพลนแต่งเดี๋ยวผมแจ้งอีกรอบ ก็มีรอฤกษ์ดี ซึ่งจริงๆ ได้มาแล้วครับ (ยิ้ม) จริงๆ แพลนทุกอย่างไว้หมดแล้วครับ หมายถึงว่าได้มีการคุยกันมาก่อนแล้ว และได้คิดมาสักระยะหนึ่ง คอมเมนต์แซวก็ได้อ่านบ้าง จริงๆ ก็ขอขอบคุณมากๆ เลย ที่ชื่นชอบในคู่เรา แต่ก็มีความแบบแซวติดตลกว่าเศร้า

ส่วนเรื่องแหวนตัวนั้น ผมก็ลองแย้มๆ ถามเขาดูว่าเป็นยังไงดี แล้วเราก็ซื้อไปเซอร์ไพร้ส์เขา ไม่ได้มีออกแบบพิเศษ แต่ว่าสั่งทำ (กี่กะรัต?) ผมว่าเรื่องขนาดอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญ คือผมว่ามันต้องเป็นอะไรที่คู่ควรกับเขาจริงๆ แหวนวงนี้ผมตั้งใจมากครับ ถ้าถามว่าจะมีแหวนแต่งงานอีกมั้ย ก็มีอันเดียวแหละฮะ (หัวเราะ) คนเราไม่ต้องมีเยอะแยะก็ได้ แต่เขาใส่อวดเพื่อน เพื่อนก็แซวๆ (ใส่แล้วมองไม่เห็นนิ้ว?) โอ้โห ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก (ยิ้ม) ส่วนเรื่องที่คนอื่นโซลด์เอาต์ไปแล้ว เหลือพี่ เกรท วรินทร จริงๆ ผมก็บอกพี่เกรทเรื่อยๆ แหละ ในทุกๆ สเต็ปว่าเป็นยังไง แต่ว่าพี่ๆ ทุกคนก็คอนเกรท ผมไม่ได้บอกพี่ๆ เขานะครับ คือทำเซอร์ไพร้ส์ก่อนแล้วค่อยมาบอก เพื่อนๆ ก็มาแซวเยอะมาก คือก่อนโพสต์ก็ตื่นเต้นๆ จริงๆ ก่อนจะโพสต์ ผมถ่ายละครอยู่ แล้วก่อนจะโพสต์ ก็เดี๋ยวจะต้องโพสต์แล้ว พอดีฝนเพิ่งหยุด แล้วน้ำมันก็ตกจากใบไม้ แล้วมันก็กดให้เอง ผมยังคิดอยู่ ผมยังตกใจอยู่เลย ผมกำลังจะเลื่อนอ่านแคปชั่นอีกรอบว่าถูกต้องมั้ย แล้วมันก็ตกลงมาแล้วมันก็กดโพสต์ไปเลย (ตอนไปบอกพี่แอน ทองประสม พี่แอนบอกว่าไม่เชื่อเราพูดไปเรื่อย?) เชื่อเถอะครับ (หัวเราะ) แต่จริงๆ ผมโทรฯ ไปบอกเขาก่อนแล้ว ส่วนเรื่องซอง ผมทวงไปตั้งแต่วันแรกที่บอกแล้วครับ ถ้าถามว่าเท่าไหร่ดี ผมบอกเขาแล้ว แต่เหมือนเขาคงเข็ดกับที่ผ่านๆ มา เขาก็เลยบอกว่ารอดูพฤติกรรมก่อน ผมก็เลยบอกว่าพฤติกรรมนั้นจะเอาอะไรมาวัดดีครับ ผมต้องได้มากนะฮะ”..