วันนี้ (25 ตุลาคม 2567) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) จังหวัดหนองคาย โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรนางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร และผู้บริหารกรมศุลกากร ร่วมพิธีดังกล่าว ณ สำนักงานศุลกากรหนองคาย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการประชาชนในเรื่องของการนำเข้า-ส่งออก ให้เกิดความรวดเร็ว สะดวกสบายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ภายใน 1 ปี ซึ่งนโยบายนี้ เป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการจนเกิดศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) จังหวัดหนองคาย 

โดยมุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น ปรับบทบาทภาครัฐเป็นการส่งเสริมสนับสนุน (Enable) การอำนวยความสะดวก (Facilitate) และการกำกับกฎกติกา (Regulate) เพื่อให้ประชาชนและเอกชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว พร้อมทั้งจะลดกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้ภาครัฐเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังเช่น ที่กรมศุลกากรได้พัฒนาการให้บริการในรูปแบบ Single Submission โดยได้ปรับปรุงแพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (Thailand National Single Window : Thai NSW) 

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวเสริมว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งวางแผนและดำเนินการเร่งรัด กำกับติดตามการดำเนินการต่าง ๆ ในภาพรวม เพื่อให้การจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ณ สำนักงานศุลกากรหนองคายแล้วเสร็จโดยเร็วเป็นแห่งแรก กรมศุลกากรในฐานะที่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังและเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้าในพื้นที่ด่านชายแดน ได้เร่งดำเนินการเพื่อก่อตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว จังหวัดหนองคาย (Nong Khai Border Trade One Stop Service : NKBTOSS) แห่งนี้จนสำเร็จ โดยบูรณาการร่วมกับ 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานศุลกากรหนองคาย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หนองคาย ด่านตรวจพืชหนองคาย ด่านกักสัตว์หนองคาย ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 2 และด่านอาหารและยาหนองคาย

สำหรับการปรับปรุงแพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (Thailand National Single Window : Thai NSW) กรมศุลกากรดำเนินการนำร่องในกลุ่มสินค้าพืชเกษตร จำนวน 673 พิกัดรายการสินค้า โดยเปิดให้บริการยื่นคำขอเพื่อขอรับใบอนุญาต ใบรับรองประกอบการนำเข้าสินค้าพืชเกษตร ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งรองรับการขอรับใบอนุญาต ใบรับรองสินค้าเกษตร ที่มีการควบคุมร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จำนวน 415 รายการพิกัดสินค้า

 

โดยผู้นำเข้าสินค้าสามารถยื่นคำขอและส่งข้อมูลเพียงครั้งเดียว และเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์ OSS กรมศุลกากรจึงได้พัฒนาระบบ Thailand Trade Journey ขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจด้านการนำเข้า-ส่งออก โดยอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลที่สำคัญรวมถึงช่องทางการติดต่อกับระบบสารสนเทศ ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอใบอนุญาตหรือใบรับรองผ่านระบบได้โดยตรง พร้อมเข้าถึงข้อมูล ขั้นตอน กฎหมาย และสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรอย่างครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ ได้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ทั้งระเบียบ กฎหมาย การขออนุญาตการนำเข้า-ส่งออก ต่าง ๆ ซึ่งในการส่งออกได้นำร่องสินค้าประเภทผลไม้ จำนวน 22 ชนิด ของหน่วยงาน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และกรมการค้าต่างประเทศ และการนำเข้าได้นำร่องสินค้าประเภท ผัก ผลไม้ วัตถุอันตราย ปุ๋ย เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ จำนวน 20 รายการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กรมวิชาการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

นอกจากนี้เพื่อลดภาระการบันทึกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และสามารถส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ในครั้งเดียว จึงได้มีการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบ Single Submission โดยดำเนินการนำร่องกับการนำเข้าสินค้าพืชเกษตรที่มีการควบคุมมากกว่าหนึ่งหน่วยงาน เช่น สินค้าพืชที่เป็นวัตถุดิบ อาหารสัตว์ ส้มแมนดาริน มันสำปะหลัง กระเทียม ลิ้นจี่ ทุเรียนแช่แข็ง ลำไย เกี่ยวข้องกับ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมการค้าต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยจะช่วยลดระยะเวลาในการกรอกข้อมูลลงได้มากที่สุดถึง 60% อันเป็นการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ

สำหรับในวันนี้ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรกับกรมวิชาการเกษตร โดยทั้งสองหน่วยงานได้เยี่ยมชมการสาธิตการตรวจสอบซีลและหมายเลขตู้คอนเทเนอร์ พร้อมรายงานด่านตรวจพืชหนองคาย เพื่อดำเนินการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช ซึ่งเป็นแนวทางในการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดนและผ่านแดน การบริการภาครัฐรวมอยู่ในระบบเดียวให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ ได้กล่าวขอบคุณกรมศุลกากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมมือกันเพื่อให้ศูนย์แห่งนี้เกิดขึ้นได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการเป็นประตูการค้าการลงทุน และยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาคต่อไป