เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 ต.ค. ที่อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีความพยายามยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยกเลิก MOU 2544 ในยุคของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่รัฐบาลปัจจุบันจะนำมาเป็นเครื่องมือในการแบ่งผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งมองว่าไทยจะเสียเปรียบการปักปันเขตแดนทางทะเล โดยเฉพาะเรื่องเกาะกูด จ.ตราด ว่า MOU 2544 เราทำได้ดีแล้ว ยืนยันว่า เกาะกูด เป็นของไทยมาโดยตลอด และไม่เคยมีปัญหาว่ากัมพูชาอยากจะเอา แบ่งเขตแดนและการพูดคุยเรื่องเส้นแบ่งเขตแดนในเรื่องเก่า ที่เกิด MOU 2544 ไม่ใช่ MOU จะให้ทำ แต่เป็น MOU จะให้ไม่ทำ ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาคือเรื่องเส้นเขตแดน โดยข้อเท็จจริงแล้วเส้นเขตแดนมาตามเกาะกูด และอ้อมเกาะกูดลงมา โดยไปตามแนวของเกาะกูด เพียงแต่เราอยากเห็นการปักเส้นเพียงนิดเดียว คือ เส้นนี้ แทนที่จะไปล้อมรอบเกาะกูด ก็ตรงออกมาเลย และขณะนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเขตแดน แต่ทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์ร่วมกัน เพราะทุกประเทศมีหลักการที่ใช้คือวัดจากไหล่ทวีปมา 200 ไมล์ทะเล และอ่าวไทยแคบ ซึ่งเรื่องดินแดนของเราในเรื่องเกาะกูด ชัดเจนมาตั้งแต่สมัยฝรั่งเศส ว่าเกาะกูดเป็นของไทย ตรงนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียเกาะกูดหรือไม่ ขออย่าหลงประเด็น ที่สำคัญต้องทำความเข้าใจกับประชาชน อย่าขยายเป็นเรื่องการยึดดินแดน เสียดินแดนชาติขึ้นมา เพราะเป็นการปลุกความคลั่งชาติขึ้นมา ทำร้ายผลประโยชน์ที่ประเทศควรจะได้รับ 

“ผมอยากให้ลดอารมณ์ความรู้สึกเหมือนกับความคลั่งชาติ และต้องทำความเข้าใจประเด็นขายชาติขายดินแดน มันไม่มี สิ่งที่แตกต่างกันก็ยังยืนยันอยู่ แต่ก็ไม่มีการล่วงล้ำอะไร สิ่งที่จะดูก็คือจะแบ่งปันผลประโยชน์อย่างไร กับผลประโยชน์ที่ทั้งสองชาติสามารถที่จะอ้างอิงได้ ถ้าท่านเข้าใจว่าจาก 2 ไหล่ทวีป 200 ไมล์ทะเล ตามที่โลกยอมรับทับกันแน่นอนอยู่แล้ว และเขายึดแผนที่ฝรั่งเศสด้วย ผมเข้ามารับผิดชอบคณะกรรมการชุดนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะหมดไปกับรัฐบาลชุดที่แล้วและหลังจากเปลี่ยนแปลงแล้วก็คงจะเรียกประชุมว่าจะทำอย่างไร ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับให้มีหน่วยงานที่กว้างขึ้นมากกว่ากระทรวงการต่างประเทศ” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่ามีคนกังวลเรื่องความสัมพันธ์ของคนในรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ที่มีความใกล้ชิดกันจึงมีความกังวลการเจรจาจะมีผลประโยชน์ส่วนตัว นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปจินตนาการเรื่องผลประโยชน์ ประเทศชาติต้องมาก่อนเรื่องอื่นอยู่แล้วและการแยกดินแดนก็ไม่มี เป็นเรื่องของการที่จะแบ่งปันผลประโยชน์ตามที่นานาประเทศทำกัน อย่าจินตนาการ เพราะเรื่องจริงหรือไม่จริง ยังไม่รู้แต่จะมีความรู้สึกว่าผิดมันพลาดไปจะเกิดขึ้นโดยเร็ว อยากให้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงดีกว่าหาความจริง มันเป็นอย่างนั้นพิสูจน์ได้ก็ว่ากันไปและตนเชื่อว่าทุกคนรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ.