เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ท.คชสิทธิ์ โคตะโน รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิตในห้องพักแห่งหนึ่ง ซอยงามวงศ์วาน 31 แยก 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงนอนหงายอยู่ตรงประตูห้องนอน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.เรณู (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน สวมกางเกงยีนขายาว มีแผลถูกแทงที่ใต้ราวนมประมาณ 5 แผล โดยพบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 นิ้ว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม และวางอยู่หน้าประตูห้องพักอีก 2 เล่ม ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายการีม (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี อาชีพช่างเจียระไนพลอย ยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ
สอบสวนนายการีม ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ตนกับภรรยามักมีเรื่องด่าทอทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ จากปัญหาหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องที่ตนถูกภรรยาแอบโกงเงินค่าพลอยและเรื่องที่ภรรยามีชายหนุ่มมาติดพัน โดยวันนี้ตนเองถูกภรรยาพูดจาเหน็บแนมอีกครั้งในทำนองว่า มึงมันโง่ที่มาเอากูเอง ซึ่งเป็นการพูดต่อหน้าลูกสาวคนเล็กที่เดินทางมาหาที่ห้อง ด้วยความเจ็บแค้นใจกับคำพูดดังกล่าว จึงรอให้ลูกสาวคนเล็กเดินทางกลับไปก่อน จากนั้นจึงใช้อาวุธมีดที่ซื้อมาเตรียมไว้ แทงเข้าที่บริเวณใต้ราวนม เพราะต้องการจบปัญหากับภรรยาคนนี้ ทั้งเรื่องโกงเงินค่าพลอยที่รับมาทำด้วยกัน และเรื่องเพื่อนสนิทชายที่แอบคบหากัน ซึ่งรู้ระแคะระคายมาตลอด 2 ปี และเขาจะได้ไม่ต้องไปเป็นภาระขอเงินลูกๆ เพื่อแอบไปดูแลเพื่อนชายคนสนิทที่คบซ้อนอีก
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า ทั้งสองสามีภรรยาอยู่กินกันมา 40 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีอาชีพรับพลอยมาเจียระไนก่อนนำไปขาย ทำธุรกิจร่วมกัน ตอนเช้าทั้งสองจะช่วยกันเจียระไนพลอย และช่วงบ่ายจะนำพลอยที่เจียระไนแล้วออกไปขายย่านบ้านหม้อ แต่ทุกครั้งที่นำพลอยไปขาย นายการีม อ้างว่าภรรยาจะให้เงินมาไม่ครบ โดยภรรยาอ้างว่านำเงินไปใช้จ่ายในบ้าน ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนก็เคยมีปัญหากันมาแล้วครั้งหนึ่ง จนถึงขั้นที่นายการีม จะใช้ไขควงแทงนางเรณู แต่นางเรณูได้ยกมือไหว้ขอชีวิตไว้ จนกระทั่งมาเกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
