เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายบุญช่วย อรรถวรรธน ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตราด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่โซเชียล มีการประกาศขายเกาะขาม ต.เกาะหมาก อ.เกาะกูด จ.ตราด ในราคา 1,800 ล้านบาท และสังคมตั้งข้อสังเกตว่าการซื้อขายเกาะและการออกเอกสารสิทธิบนเกาะสามารถทำได้หรือไม่นั้น ว่า กรณีนี้เป็นเรื่องเก่าหลายปีมาแล้ว ซึ่งเจ้าของมีการโพสต์ขายเกาะ แต่ยังขายไม่ออกมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ทสจ.ตราด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเกาะขาม พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของเอกชน มีโฉนดประมาณ 10 ไร่ ไม่พบการบุกรุก

นายบุญช่วย กล่าวต่อว่า ส่วนพื้นที่เกาะสามารถออกโฉนดได้หรือไม่นั้น ถ้าครอบครองทำประโยชน์มาก่อนการประกาศพื้นที่ป่าก็สามารถนำเอกสารแสดงการครอบครอง เช่น ส.ค.1 มาขอออกเอกสารสิทธิได้ แต่โฉนดบนเกาะขามนี้จะได้มาอย่างไรและเมื่อไรนั้น ต้องไปถามในส่วนของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ส่วนการก่อสร้างท่าเทียบเรือรุกล้ำทะเลและมีการขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่นั้น ก็เป็นเรืองที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เมื่อปี 2557 เกาะขาม เคยถูกตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำทะเล และบุกรุกที่ดิน โดย พล.ร.ต.สานนท์ ชะเอม รอง ผบ.กองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราดในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตราด จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าของเกาะ คือเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กำลังอยู่ระหว่างการสร้างรีสอร์ทชื่อ อนันญารีสอร์ท เจ้าหน้าที่พบการก่อสร้างกำแพงกั้นคลื่นตลอดแนวเกาะ ที่มีหาดทรายยาวกว่า 500 ม. นอกจากนี้ยังมีการสร้างสะพานท่าเรือยาวกว่า 149 ม. รวมทั้งด้านหลังที่มีสภาพป่า ได้มีการบุกรุกเข้าปลูกสร้างห้องพัก และเรือนคนงาน จาก นส.3 ที่มีเพียง 10 ไร่ แต่พื้นที่ที่มีการปลูกสร้างมีมากกว่า และยังพบการบุกรุกก่อสร้างขึ้นไปบนเนินเขาเพื่อทำจุดชมวิว มีการสร้างทาง ถางป่า เพื่อเข้าทำประโยชน์จำนวนมาก ซึ่ง พล.ร.ต.สานนท์ ระบุว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เกาะกูด ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีสู่ชั้นพนักงานสอบสวน สภ.เกาะกูด ปรากฏว่า สำนวนคดีหายไป และเมื่อมาดำเนินคดีใหม่ และส่งไปยังอัยการตราด แต่อัยการตราดไม่สั่งฟ้อง และทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีการอุทธรณ์คดีแต่ประการใด.