เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2567 ที่รัฐสภา พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาค 4 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจงในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วาระการพิจารณาศึกษา และวิเคราะห์กรณีคดีตากใบกับการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพ และการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ว่า ส่วนใหญ่ในที่ประชุมไม่ได้สงสัยคดีตากใบ แต่ถามถึงแนวทางการรับมือหากคดีหมดอายุความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประท้วง หรือความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้เรียนให้ทราบว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้เน้นย้ำว่า ให้ดูแลในพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ และในส่วนการกระทำต่างๆ ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายที่สามารถจะทำได้

พล.ท.ไพศาล กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ในวันที่ 25 ต.ค. ที่จะถึงนี้ หากคดีหมดอายุความ มีแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ และสิ่งที่ห่วงใยคืออาจมีมือที่สามจะมาสวมรอย ซึ่งตนได้ชี้แจงใน กมธ. ว่า ได้ขอความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่น และหน่วยงานความมั่นคง และได้มีการควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว สำหรับการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทั่วไปทำอยู่แล้ว แต่อาจจะยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้น

เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ของกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.ท.ไพศาล กล่าวว่า ขบวนการบอกว่าได้มีการสร้างสถานการณ์ หล่อเลี้ยงสถานการณ์กันไว้แล้ว ที่เหลือเป็นการขับเคลื่อนของมวลชน และประชาชนในพื้นที่ ส่วนในลำดับต่อไป ก็หวังว่าการขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งก็ห่วงว่าสถานการณ์ที่สร้างเอาไว้ ซึ่ง ตร. ได้เน้นย้ำว่า ให้อยู่ในกรอบกฎหมายที่สามารถทำได้ เนื่องจากห่วงเรื่องมือที่สาม ที่จะมาก่อเหตุร่วมกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์อะไรที่น่าวิตกกังวล