ทาง การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ได้แนะนำวิธีการดูแลอย่างน่าสนใจว่า สำหรับใครที่อยากรู้ว่า เราสามารถชาร์จรถ EV ขณะฝนตกได้หรือไม่? และควรปฏิบัติอย่างไร? กรณีฝนตก เราจะไม่แนะนำให้ชาร์จไฟรถ เพื่อป้องกันหยดนํ้ากระเด็นเข้าไปในหัวชาร์จ หรือในช่องชาร์จของรถ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องชาร์จ แนะนำให้เลือกสถานีชาร์จที่ได้รับการติดตั้งตามมาตรฐาน ไม่มีนํ้าท่วมขังในบริเวณสถานี ตรวจสอบหัวชาร์จต้องอยู่ในสภาพดีไม่มีรอยแตกหัก และควรใช้ผ้าเช็ดหัวชาร์จให้แห้งก่อนชาร์จ

แล้วเราสามารถขับรถ EV ขณะฝนตกหนัก และมีนํ้าท่วมขังได้หรือไม่ และควรปฏิบัติอย่างไร กรณีนี้เราสามารถขับรถผ่านในขณะมีฝนตกหนักได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขับผ่านเส้นทางที่มีนํ้าท่วมสูงเกินระดับฟุตปาธ หรือสูงกว่าครึ่งล้อ หากจำเป็นต้องขับผ่านพื้นที่นํ้าท่วม พยายามรักษาความเร็วตํ่าและขับอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันนํ้ากระเซ็นเข้ารถ EV แล้วเราสามารถจอดรถ EV ในพื้นที่นํ้าท่วมขังได้หรือไม่ และหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรปฏิบัติอย่างไร กรณีนี้ไม่แนะนำให้จอดรถ EV ในพื้นที่นํ้าท่วมขังเนื่องจากอาจทำให้ระบบไฟฟ้าภายในตัวรถและแบตเตอรี่เสียหาย หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้ผู้ขับเลือกจอดในพื้นที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดกระจกหน้าต่างและประตูสนิทแน่นหนาทั้งหมด

ส่วนบ้านไหนที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ช่วงหน้าฝนจะยังใช้งานอยู่ได้ดี หรือเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ ทาง MEA ระบุว่า ถ้ายังมีแสง ก็ยังสามารถใช้งานโซลาร์เซลล์ได้ เนื่องจากแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า โดยใช้ความเข้มของแสง ส่วนจะผลิตได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงในช่วงเวลานั้น ๆ พร้อมแนะนำให้เลือกใช้ Inverter ที่มีระบบป้องกันฟ้าผ่าหรือติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่าภายนอกเพิ่มเติม

เมื่อไฟดับระบบโซลาร์เซลล์จะตัดออกจากระบบ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านไม่ให้เสียหาย และจะกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังระบบไฟฟ้าหลักกลับมาภายใน 5-10 นาที หากเกิดไฟตกหรือไฟดับตอนฟ้าผ่าหรือพายุเข้าแรง ๆ ระบบโซลาร์เซลล์จะตัดออกจากระบบเป็นอย่างแรก เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลย้อนกลับเข้าสู่ระบบไฟฟ้าหลัก และส่งผลอันตรายต่อผู้ควบคุมไฟฟ้าเมื่อซ่อมบำรุง โดยแผงโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่แปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าท้องฟ้าอากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างในช่วงหน้าฝน เพื่อความปลอดภัยควรเช็ก เตรียมความพร้อมไว้ก่อน.