“เดอะตุ๊ก” นาวาอากาศเอกปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มองว่าการที่ทีมชาติไทย พบกับทีมชาติลาว ในเกมอุ่นเครื่องวันที่ 17 พ.ย.67 นี้นั้น จะช่วยให้ ช้างศึก ได้ลองเจอทีมที่สไตล์แตกต่างไปจากเดิม และที่สำคัญ ได้ลองทีมสำหรับฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ที่คาดว่าจะเจอทีมที่เน้นตั้งรับเป็นหลัก

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศยืนยันคิวแข่งขันของทีมชาติไทยช่วงฟีฟ่าเดย์ ก่อนหน้านี้ยืนยันการพบ เลบานอน อันดับ 114 ของโลก วันที่ 14 พ.ย.67 ส่วน วันที่ 17 พ.ย.นั้น เยเมน ถอนตัวไป ก่อนที่ล่าสุด สมาคมฯ ยืนยันแล้วว่า จะเตะกับทีมชาติลาว อันดับ 187 ของโลก โดยทั้ง 2 นัด เตะที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

การประกาศมาว่าไทยจะเจอกับ ลาว ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียลถึงความเหมาะสม ซึ่ง “กีฬาเดลินิวส์” สอบถามความเห็นไปยัง เดอะตุ๊ก โดยตำนานลูกหนังไทยกล่าวว่า ถ้ามองมุมกลับ การได้อุ่นเครื่องกับทีมชาติลาว ที่ฟีฟ่าแรงกิ้งต่ำกว่า ก็จะเป็นสไตล์ที่หลากหลายที่ไทยจะได้แข่งขันด้วย หลังจากตั้งแต่ต้นปีก็แข่งกับทีมอันดับสูงกว่า และทีมที่เก่งๆ มาตลอด ไทยเล่นระบบตั้งรับเหนียวแน่น แล้วรอโต้กลับ แต่เมื่อมาเจอกับลาว สถานการณ์จะเปลี่ยนไป ทีมไทยจะมีโอกาสสร้างสรรค์เกมรุกมากขึ้น

“ในเอเอฟเอฟ (ชิงแชมป์อาเซียน) ไทยต้องเจอทีมที่ตั้งรับ ที่ผ่านมาเราแทบไม่ได้ซ้อมการเจอทีมที่มาเล่นแผนแบบนี้เลย จะมีปัญหาเมื่อไปเจอคู่ต่อสู้ที่แรงกิ้งต่ำกว่า เจอการยืนเกมรับหลายชั้น เรียกว่าเมื่อเจอรถบัสแล้ว ทีมไทยจะมีวิธีการเข้าทำอย่างไร”

เดอะตุ๊ก กล่าวต่อไปว่า บอลชิงแชมป์อาเซียนหนนี้ ยอมรับว่าทีมไทยจะไม่ได้นักเตะที่ดีที่สุด เพราะมีเกมไทยลีกหลายคู่แข่งตรงกัน ซึ่งได้คุยกับ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าโค้ชไทย รับทราบแล้วตั้งแต่ตอนเตะคัดบอลโลก กับ สิงคโปร์ เมื่อเดือน มิ.ย. ดังนั้นจะเป็นโอกาสให้ อิชิอิ ได้ลองผู้เล่นใหม่ๆ จากเกมอุ่นเครื่อง ไปสู่อาเซียนคัพ

สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ทีมชาติไทย ที่เป็นแชมป์ 2 สมัยล่าสุด อยู่กลุ่ม A คิวเตะวันที่ 8 ธ.ค.67 พบ ติมอร์เลสเต (เยือน), วันที่ 14 ธ.ค.67 พบ มาเลเซีย (เหย้า), วันที่ 17 ธ.ค.67 พบ สิงคโปร์ (เยือน), วันที่ 20 ธ.ค.67 พบ กัมพูชา (เหย้า), วันที่ 26-27 ธ.ค.67 รอบรองฯ เลกแรก, วันที่ 29-30 ธ.ค.67 รอบรองฯ เลก 2, วันที่ 2/5 ม.ค.68 รอบชิงชนะเลิศ.

(ภาพจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน)