เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่มูลนิธิปวีณาฯ : นางรำไพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ลูกสาว เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความเป็นธรรมและช่วยติดตามคดี กลุ่มวัยรุ่นแก๊งโพธิ์จันทร์นับสิบคนก่อเหตุรุมโทรม น.ส.เอ เหตุเกิด 03.30 น. วันที่ 10 ก.ย.67 บริเวณบ้านพักของ 1 ในผู้ต้องหา หมู่บ้านคลองศาลา ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

น.ส.เอ เล่าว่า “ปกติหนูกับแม่จะอยู่จ.เพชรบูรณ์ พอได้งานขายของออนไลน์หนูเลยเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จะกลับบ้านเดือนครั้ง ก่อนเกิดเหตุหนูกลับไปเที่ยวที่เพชรบูรณ์บ้านเกิด เพื่อนสาวคนหนึ่งได้ล่อลวงให้ไปหา บอกว่าแฟนหนูรออยู่ แต่พอไปถึงกลับเจอกลุ่มวัยรุ่นแก๊งโพธิ์จันทร์เป็นชายประมาณ 15 คน ไม่ได้เจอแฟนหนุ่มกับเพื่อนสาวที่นัดไว้ กลุ่มชายประมาณ 10 คน ได้เข้ามาช่วยกันจับตัวหนูขึงพืด ใช้ผงสีขาวไม่ทราบชนิดยัดปากและยัดจมูกจนหนูแขนขาอ่อนแรงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่หนูยังมีสติจำหน้าผู้ที่ลงมือข่มขืนได้ครบทุกคน จากนั้นทั้งหมดก็ผลัดกันรุมโทรมจนเกือบถึงเช้า

หลังจากที่หนูหลุดพ้นมาได้ก็รีบนั่งรถทัวร์กลับเข้ากรุงเทพฯ ไม่กล้าบอกใครเพราะอับอาย ต่อมามีเพื่อนสาวคนหนึ่งที่อยู่เพชรบูรณ์โทรมาแบล็กเมล์ข่มขู่ อ้างว่าวันที่ถูกรุมโทรมมีการถ่ายคลิปเอาไว้ ถ้าไม่ข่ายเงิน 2,500 บาท จะแชร์คลิปในโซเชียล หนูตกใจมากจึงปรึกษากับแม่และพากันไปแจ้งความวันที่ 7 ต.ค.67 ที่สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมนำหลักฐานข้อความแชตที่ถูกข่มขู่ไปมอบให้ตำรวจ หลังจากแจ้งความก็มีคนในกลุ่มที่ก่อเหตุแชตมาข่มขู่ และมีคนในกลุ่มที่ก่อเหตุมีญาติเป็นคนมีสี มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลัง นอกจากนี้พวกของผู้ก่อเหตุยังมาขับขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนที่หน้าบ้านทำให้หนูกับครอบครัวหวาดกลัวเกรงจะไม่ปลอดภัย

เมื่อวานนี้หนูกับแม่ก็ไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ และทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุเพียง 4 คน ซึ่งหนูเองก็ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดมี 9 คน หนูเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยให้ความปลอดภัยและช่วยติดตามคดี”

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6. พล.ต.ต.สารนัย คงเมือง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย โดยจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาน.ส.เอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตามที่แพทย์ได้นัดหมาย ซึ่งน.ส.เอ ให้ข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุกลับมาบ้านอวัยวะเพศบวมเป่ง อักเสบติดเชื้อและมีหนองจึงได้ไปทำการรักษาที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีหลักฐานข้อมูลการแชตข่มขู่จะเผยแพร่คลิปรุมโทรมในโซเชียลเพื่อให้เกิดความอับอายซึ่งได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.