นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษาจัดตั้งกองทุนเพื่อระดมทุนประมาณ 2 แสนล้านบาทในการซื้อคืนกิจการรถไฟฟ้าจากเอกชนกลับคืนมาเป็นของรัฐ เพื่อจัดเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายไม่เกิน 20 บาทตามนโยบาย
โดยในการระดมทุนส่วนหนึ่งจะมาจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่ง หรือพื้นที่รถติด (Congestion charge) เบื้องต้นจะเก็บจากรถเก๋งเท่านั้น และพื้นที่จัดเก็บเป็นโซนตามแนวรถไฟฟ้าและเชื่อมต่อถนนสายหลักให้ประชาชนมีทางเลือกในการใช้รถไฟฟ้าแทนใช้รถส่วนตัว และขับเลี่ยงออกถนนนอกโซนพื้นที่จัดเก็บเพื่อลดปริมาณการจราจรและลดมลพิษคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 เดือน-1 ปี
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ร่วมกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ศึกษาสำรวจถนนที่มีปริมาณจราจรหนาแน่นประมาณ 700,000 คัน/วัน หากจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯคันละ 50 บาท ประเมินเบื้องต้นจะมีรายได้ประมาณ 35 ล้านบาทต่อวัน หรือ 12,000 ล้านบาทต่อปี มาสนับสนุนกองทุนฯซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชนได้
ทั้งนี้เบื้องต้นสำหรับพื้นที่ 6 โซนที่จะจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ได้แก่
1.ทางแยก เพชรบุรี-ทองหล่อ (ช่วงถนนเพชรบุรี และ ทองหล่อ) มีปริมาณจราจร 60,112 คัน/วัน
2.ทางแยก สีลม-นคราธิวาส (ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสีสม) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน
3.ทางแยก สาทร-นราธิวาส (ช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนสาทร) มีปริมาณจราจร 83,368 คัน/วัน
4.ทางแยก ปทุมวัน (ช่วงถนนพญาไท และ ถนนพระรามที่ 1) มีปริมาณจราจร 62,453 คัน/วัน
5.ทางแยก ราชประสงค์ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 และถนนเพลินจิต) มีปริมาณจราจร 56,235 คัน/วัน
6.ทางแยกประตูน้ำ (ช่วงถนนราชดำริ ถนนราชปรารภ และถนนเพชรบุรี) มีปริมาณจราจร 68,473 คัน/วัน