เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงการแต่งตั้งนายพลตำรวจว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร. ปีนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คัดเลือก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.ผู้อาวุโสอันดับหนึ่งเป็น ผบ.ตร.เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดทุกประการ ได้รับเสียงชื่นชม นับว่าเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การแต่งตั้ง ผบ.ตร.อีกครั้ง รอง ผบ.ตร.ผู้อาวุโสอันดับหนึ่งขึ้นเป็น ผบ.ตร. ล้มภาพซากปรักหักพังของการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ปีที่แล้ว ก.ตร.เห็นชอบแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้อาวุโสอันดับสี่ อันดับสุดท้ายมาเป็น ผบ.ตร.ทำให้เกิดข้อขัดแย้งรุนแรง วิกฤติศรัทธาของประชาชนที่มีต่อตำรวจ และยังมีเรื่องร้องเรียนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ และ ก.ตร.ที่ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งอยู่ที่ ป.ป.ช.

พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องจับตาดูของตำรวจทั้งประเทศและพี่น้องประชาชน คือการที่ ผบ.ตร.จะจัดแถวคัดเลือกแต่งตั้งตำรวจในลำดับถัดไป โดยเฉพาะการแต่งตั้งระดับนายพล ซึ่งคาดว่าจะประชุมแต่งตั้งภายในเดือน พ.ย. ตำแหน่งระดับ ผบช. เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็น รอง ผบ.ตร.ไม่มีปัญหา เพราะกฎหมายให้แต่งตั้งเรียงลำดับอาวุโสร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ตำแหน่ง ผบช.ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญ รับผิดชอบ กำกับดูแลหน่วยงานระดับกองบัญชาการ มีตำแหน่งว่าง 14 ตำแหน่ง มีตำแหน่งที่สำคัญ ผบช.น., ผบช.สตม., ผบช.สอท., ผบช.ตชด., ผบช.ภ.1, ผบช.ภ.2, ผบช.ภ.3, ผบช.ภ.4 กฎหมายให้กำหนดอาวุโส 50 เปอร์เซ็นต์ ให้กลุ่มความรู้ความสามารถ 50 เปอร์เซ็นต์

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า เบื้องต้นผู้บังคับบัญชา ผู้มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกระดับต้องเข้าใจบริบทของกฎหมายการแต่งตั้งปัจจุบัน เปลี่ยนไปจากกฎหมายเดิมในอดีต ดังนั้นต้องดำเนินการแต่งตั้งให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้ง 2567 กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด คือแต่งตั้งตามระบบคุณธรรม คำนึงถึงอาวุโสความรู้ความสามารถประกอบกัน ดำเนินการตามกฎเกณฑ์การแต่งตั้งอย่างชัดเจนแน่นอน มิให้ผู้ใดมาใช้อำนาจโดยมิชอบหรือกระทำการโดยมิชอบ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด มิฉะนั้นแล้ว หากตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้ง ร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) อาจจะวินิจฉัยยกเลิกแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นเหตุให้ผู้บังคับบัญชาที่ใช้อำนาจแต่งตั้งโดยมิชอบอาจจะต้องรับโทษทางวินัยทั้งวินัยธรรมดาและวินัยร้ายแรงตลอดจนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาฐานใช้อำนาจแต่งตั้งโดยมิชอบ

พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ผบ.ตร.และผู้บังคับบัญชาทุกระดับ จะต้องดำเนินการพิจารณาตามลำดับ จากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดตั้งแต่ระดับล่างสุด สถานีตำรวจ กองกำกับการ กองบังคับการ กองบัญชาการจนถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การพิจารณาในรูปคณะกรรมการผู้บังคับบัญชาและรองหัวหน้าหน่วยประชุมร่วมกัน ต้องจัดทำบัญชีผู้อาวุโสบัญชีผู้เหมาะสม ประชุมบันทึกรายงานการประชุมอย่างถูกต้อง จะทำในลักษณะที่เคยปฏิบัติมาในอดีต ผู้บังคับบัญชาระดับสูงส่งชื่อสั่งการไปให้หน่วยต้นสังกัดพิจารณาเสนอขึ้นมาเสี่ยงกับการที่จะมีการร้องเรียนกล่าวหาดังกล่าว หากดำเนินการดังกล่าวก็จะเป็นไปตามระบบคุณธรรม และหลักเกณท์ที่กฎหมายกำหนดดังกล่าว ตำรวจที่มีอาวุโส ความรู้ความสามารถ ก็จะได้รับการพิจารณาให้เจริญก้าวหน้า มีขวัญและกำลังใจปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป ผู้บังคับบัญชาระดับสูงหรือการเมืองคงไม่สามารถแทรกแซงการแต่งตั้งได้

“การแต่งตั้งนายพลจะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของ ผบ.ตร.ในเรื่องการบริหารงานบุคคลเป็นไปตามบริบทกฎเกณฑ์กฎหมายใหม่เน้นเรื่องคุณธรรม อาวุโส ความรู้ความสามารถ นำพาสำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านคลื่นลมของการเมืองที่เคยถาโถมจนทำให้ตำรวจเสียหายอย่างในอดีตได้หรือไม่” พล.ต.อ.เอก กล่าวทิ้งท้าย