สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่านับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลปากีสถานกับฝ่ายตุลาการของประเทศก็เริ่มตกต่ำลง หลังจากที่ผลการตัดสินคดี 2 คดีสำคัญของศาลชั้นสูง เอื้อประโยชน์ต่ออดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำ

ทั้งนี้ กฎหมายใหม่จะกำหนดให้ ตำแหน่งประธานศาลสูงสุด ต้องมาจากการคัดเลือกโดยคณะกรรมการของรัฐสภา และมีวาระการดำรงตำแหน่งที่แน่นอน คือ 3 ปี

การแก้ไขดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่นายกาซี ฟาเอซ อิซา ประธานศาลฎีกาคนปัจจุบัน จะเกษียณอายุราชการ ซึ่งตามกฎหมายฉบับเดิม นายมานซูร์ อาลี ชาห์ ผู้ซึ่งเคยออกคำตัดสิน ที่เอื้อประโยชน์ต่อข่าน และพรรคเตห์รีค-อี-อินซาฟ (พีทีไอ) จะขึ้นรับตำแหน่งประธานศาลฎีกา ในฐานะผู้อาวุโสลำดับถัดมา

นอกจากนั้น กฎหมายฉบับแก้ไขจะมีการจัดตั้งคณะผู้พิพากษาอาวุโส เพื่อชั่งน้ำหนักเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นข้อพิพาทหลักระหว่างรัฐบาลกับพรรคพีทีไอ ในการพิจารณาของศาล เมื่อไม่นานมานี้

นายกรัฐมนตรีอาซีฟ อาลี ซาร์ดารี ผู้นำปากีสถาน กล่าวต่อที่ประชุมสภาว่า “นี่คือวันแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งยืนยันถึงอำนาจสูงสุดของรัฐสภา”

ขณะที่นายโอมาร์ อัยยูบ ข่าน ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคพีทีไอ โต้แย้งว่า รัฐบาลที่จัดตั้งโดยทุจริตไม่มีอำนาจและความชอบธรรม ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ด้านหนังสือพิมพ์ “ดอวน์” ของปากีสถานคาดการณ์ว่า กฎหมายฉบับนี้อาจก่อให้เกิดการเผชิญหน้า และข้อพิพาทระหว่างฝ่ายตุลาการกับรัฐบาล.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES