นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี ได้นำคณะเดินทางเยือนประเทศแคนาดา ระหว่างวันที่ 15 – 18 ตุลาคม 2567 เพื่อชักชวนการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ ได้แก่ การบินและโลจิสติกส์ การศึกษา และอุตสาหกรรมบีซีจี โดยเฉพาะด้านเกษตรอัจฉริยะ ระบบการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพลังงานสะอาด 

ทั้งนี้ในระหว่างการจัดกิจกรรม คณะผู้แทน สกพอ. ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ เช่น CAE, CDPQ, PSP, DIMONOFF & AMOTUS, McGill University INNOVEE เป็นต้น โดยได้นำเสนอศักยภาพและสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนในประเทศไทย เพื่อชักชวนให้บริษัทเหล่านี้ลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พร้อมทั้งหารือความเป็นไปได้ในการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

สำหรับการเยือนประเทศแคนาดาในครั้งนี้ คณะจาก สกพอ. ได้จัดการประชุมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ BCG ร่วมกับ Trade Commissioner Services โดยมีผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐของแคนาดาด้านเกษตรอัจฉริยะ เศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน จำนวน 10 บริษัท/หน่วยงาน และการประชุมหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ ร่วมกับ Investissement Quebec International โดยมีผู้ประกอบการแคนาดาด้านการบิน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินและโลจิสติกส์ จำนวน 8 บริษัท/หน่วยงาน 

นายจุฬา กล่าวว่า สกพอ. ได้นำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายในประเทศไทยด้วย และผู้ประกอบการแคนาดามีความสนใจในการขยายโอกาสในการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และตลาดเอเชียถือเป็นพื้นที่เป้าหมายที่สำคัญ จึงถือเป็นโอกาสของพื้นที่อีอีซี ในการรองรับการลงทุนในอนาคต และ Trade Commissioner Services และ Investissement Quebec International เห็นพ้องในการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์โอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซีกับสมาชิกในอนาคตด้วย

นอกจากนี้อีอีซีได้นำเสนอในหัวข้อ “EEC Opportunities for Sustainability” ในงาน Canada-ASEAN Conference and Award ณ นครมอนทรีออล โดยมี  Canada-ASEAN Business Council (CABC) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน ซึ่งมีผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนจากแคนาดา ที่มีความสนใจในโอกาสการลงทุนในภูมิภาค ASEAN เข้าร่วมงานกว่า 150 คน การจัดกิจกรรมชักชวนการลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นการสานต่อจากผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 ที่ผ่านมา โดยเห็นพ้องในการขยายความร่วมมือในด้านการศึกษา และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน