สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ว่า ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลแคนเบอร์รายกย่องว่าเป็น “ก้าวสำคัญ” ถือเป็นการปรับปรุงความสามารถด้านการป้องกันประเทศทางทะเลของออสเตรเลีย ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ที่เปิดเผยในปีนี้ เพื่อยับยั้ง “กลวิธีบีบบังคับของจีน” ในภูมิภาค

ทางการออสเตรเลีย ระบุว่าจะใช้เงิน 7,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 157,000 ล้านบาท) เพื่อซื้อขีปนาวุธ “เอสเอ็ม-6” ที่ติดตั้งบนเรือ ซึ่งสามารถโจมตีอากาศยานและขีปนาวุธร่อนได้ รวมถึงขีปนาวุธพิสัยกลาง “เอสเอ็ม-2 บล็อก 3 ซี”

“ออสเตรเลียเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางภูมิยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อนที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง” นายแพต คอนรอย รมว.อุตสาหกรรมกลาโหมออสเตรเลีย กล่าว “ขีปนาวุธชั้นนำของโลก จะทำให้ชาวออสเตรเลียปลอดภัย หยุดยั้งศัตรู และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ ในยุคของขีปนาวุธเช่นนี้”

อนึ่ง รัฐบาลแคนเบอร์รา ระบุเสริมว่า ขีปนาวุธเหล่านี้จะถูกนำไปใช้งานอย่างต่อเนื่อง บนเรือพิฆาตชั้นโฮบาร์ต 3 ลำของออสเตรเลีย และเรือฟริเกตต่อต้านเรือดำน้ำชั้นฮันเตอร์ ในภายหลัง

ด้านนายริชาร์ด มาร์เลส รมว.กลาโหมออสเตรเลีย กล่าวว่า ขีปนาวุธใหม่ของสหรัฐ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของกองทัพออสเตรเลีย ในการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองทัพเรือ เพื่อป้องกันชาวออสเตรเลีย และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP