เมื่อวันที่ 22 ต.ค. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการดำเนินคดีสลายการชุมนุมที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ว่า  ขณะนี้เหลือเวลาอีก 3 วัน ฝ่ายราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจพยายามที่จะทำงาน และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ซึ่งในการหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้นได้มีการหยิบยกเรื่องนี้มาพูดคุยด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกพรรคการเมืองจะมาช่วยกัน ส่วนกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจจับกุมได้เฉพาะคดีพิเศษ แต่ได้ตั้งฝ่ายสืบสวนหลายคนเข้าไปช่วยสนับสนุนการสืบสวนข้อมูล โดยเราหวังว่าจะได้ตัวผู้ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะเราเห็นใจผู้เสียหายและประชาชน เนื่องจากความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีอาญา

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องคดีความนั้นได้พิจารณา อาจต้องมีการแก้ไขหลายครั้ง และเวลาที่หยิบมาแก้ไขนั้นต้องไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งคดีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคนที่หนีหมายจับ ประมาณ 1,789 หมาย แต่ถ้าเป็นตัวบุคคล มีจำนวน 1,067 หมาย มีหมายซ้ำกัน 722 หมาย และส่วนใหญ่คนที่ถูกออกหมายจับนั้นไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นบุคคลที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงหลบหนี  และขาดอายุความ 140 ราย ทั้งนี้ขอย้ำว่าทุกหน่วยงานทำอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ขณะที่ตำรวจสากลจะประสานงาน ไม่ว่าจะอยู่ประเทศใด ก็ต้องนำตัวกลับมาให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะใช้วิธีการอื่นใด เพื่อนำตัวคนผิดมาลงโทษ คดีตากใบหมดอายุความ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมกำลังให้มีการศึกษา และรัฐบาลไม่ได้มีอคติกับใคร ก็จะติดตามเรื่องนี้ อีกทั้งถือเป็นบทเรียนของสังคมไทย ขณะเดียวกันสังคมก็ติดตามเรื่องนี้ ที่ความล่าช้าของสำนวนคดีนี้ ทราบว่าปี 2562 หลังจากอัยการลดการสอบสวน ต่อมาต้นปี 2567 คณะกรรมาธิการได้ติดตามเรื่องมาดู พบว่ากรณีที่ศาลสั่งไต่สวน ยังไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ทำให้ตาย และผู้ตายเป็นใคร สอนเพิ่มเติมตรงนี้ตำรวจต้องสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม และจากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า มีการสอบพยาน 700 ปาก จนนำมาสู่การออกหมายจับ แต่เนื่องจาก ระบบกฎหมายของเราต้องมีตัวบุคคลไปร้องต่อศาล ภายในอายุความ 20 ปี ซึ่งเราต้องมาร่วมการศึกษาตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าเห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิต แม้จะมีการเยียวยา แต่ไม่ได้ตัดสิทธิ ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีทางปกครอง รวมถึงการรับผลประโยชน์อื่น

เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะกระทบกับฐานเสียงของพรรคประชาชาติในจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องนี้จบไปแล้วด้วยซ้ำ แต่คนที่นำเรื่องขึ้นมาก็คือหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ที่นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการ และหลายพรรคเห็นว่าคดีนี้มีเรื่องของอายุความ จึงต้องมาศึกษาว่าควรทำอย่างไร เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง ส่วนผู้ที่ถูกออกหมายจับถ้ามีหลักฐานว่าไปอยู่ต่างประเทศ 2 คน และมีส่วนที่ยังไม่เป็นทางการที่เราไปสะกดรอยติดตาม ช่วยเทคโนโลยี เราก็ต้องเร่งติดตามเช่นกัน ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่เหลือ ตนขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต และประชาชนที่ออกมาต่อสู้ ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และนักวิชาการ

เมื่อถามว่ามีแนวโน้มที่จะได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีภายในอายุความหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ฟังผู้บังคับบัญชา ญาติ ถ้าผู้ต้องหาคิดว่าอยากได้เสรีภาพ เขาก็ต้องออกไป เพราะรู้ว่าคดีมีอายุความ ขอย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุ่มเทกำลังทุกอย่าง