เมื่อเวลา 20.03 น.วันที่ 21 ต.ค.ที่โรงแรมโรสวูด ถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี   ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนต่อรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมจะเดินหน้าต่อกันอย่างไร ว่า อย่างที่ทราบว่าทุกเรื่องมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกันและเห็นไม่ตรงกัน ก็เป็นประชาธิปไตย แต่ในทุกเรื่องก็สามารถตกลงกันได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ เพราะฉะนั้นขั้นตอนต่อไปก็ขอให้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร เราก็จะทำงานตรงนี้ต่อไป

เมื่อถามว่าการหารือเรื่องการนิรโทษกรรมส่วนใหญ่มีความเห็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จริงๆมีในเนื้อความหลายๆอย่าง มันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ เพราะฉะนั้นก็อย่างที่ตนได้บอกมีเรื่องที่เห็นตรงกันและบางอย่างก็เห็นไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา ฉะนั้นในรายละเอียดตรงนี้ขอไม่ชี้แจงมากกว่านี้แล้วกัน เป็นเรื่องของรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรแยกกัน ซึ่งไม่มีเรื่องที่ต้องทะเลาะเบาะแว้งกัน

เมื่อถามต่อว่ากรณีการนิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร จะให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลหรือให้เอกสิทธิ์แต่ละพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่การที่เราได้มาร่วมกันวันนี้ ก็ถือว่าได้พูดคุยกันอยู่แล้ว ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเว้นหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่พูดมาโดยตลอด และถือเป็นข้อตกลงที่ร่วมรัฐบาลกันได้ และเห็นพ้องต้องกันมากๆ

เมื่อถามถึงความชัดเจนในเรื่องมาตรา 112 เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เราไม่แตะเรื่อง 112 อยู่แล้ว ตนได้พูดในทุกเวที

เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดเห็นพ้องที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะอย่างไรบ้าง ในเรื่องรายละเอียดขอให้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรไป แต่สิ่งที่เราคุยกันก็คุยกันในกรอบว่าอยากทำอะไรบ้าง และยังมีไปถึงเรื่องในแต่ละกระทรวงว่าอยากจะพัฒนาประเทศอย่างไร เราก็ก็คุยกันในรายละเอียดแบบนั้นและเข้าใจในความหมายตรงกัน