เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พาพยานปากสำคัญอ้างเป็นคนใกล้ชิดนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ปมเส้นเงินดิไอคอน

นายเอกภพ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการพาพยานมาให้ข้อมูลกับตำรวจ บก.ปปป. กรณีที่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์ปมดิไอคอน ซึ่งพยานรายนี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดบอสพอล แต่ไม่ได้เป็นที่รู้จักในสื่อสังคม ซึ่งจะให้ข้อมูลเป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจมากน้อยแค่ไหน เชื่อว่าตำรวจมีกระบวนการในการแยกแยะและแสวงหาพยานหลักฐานแน่นอน

ส่วนข้อมูลของพยานจะมีข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวพยาน แต่ตนมองว่าการที่กล้าเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจนั้นเชื่อว่า มีหลักฐานและมั่นใจในข้อมูลที่ตัวเองมีอยู่ และพยานยังเชื่อในตัวของพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

ส่วนภายหลังจากที่ตนเองได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน Digital จาก USDT เป็น ETH นั้น พบว่าหลังจากมาให้ข้อมูลในวันต่อมาก็ได้มีการหยุดการเปลี่ยนถ่ายสกุลดังกล่าว และเปลี่ยนไปซื้อสกุลเงินอื่นแทน

ส่วนเรื่องสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ออกมาชี้แจงว่าตรวจสอบเส้นทางการเงินดังกล่าวแล้วไม่ความผิดปกตินั้น จากการพูดคุยทราบว่าอาจจะเป็นการถ่ายเทที่ไปยังช่องทางอื่น

ทั้งนี้มีข้อมูลเบาะแสว่า แม่ข่ายที่อยู่ จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในทีมของ 1 ใน 18 บอส ได้มีการแยกย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ซึ่งหากประชาชน พบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถส่งข้อมูลหรือคลิปมาที่เพจสายไหมต้องรอได้ ซึ่งตนจะนำไปส่งเจ้าหน้าที่โดยจะปิดบังข้อมูลผู้แจ้งให้