ที่วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร อ บางปะอิน จะพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการบำรุงต้นไม้ทรงปลูกและต้นไม้ทั่วไปในวันรักต้นไม้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “วันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ” เกิดขึ้นจากปณิธานอันแรงกล้าของ “สมเด็จย่า” สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงจะฟื้นฟูความสมดุลของธรรมชาติโดยทรงปลูกและบำรุงต้นไม้ด้วยพระองค์มาโดยตลอด และทรงให้ความสำคัญของการบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกว่ามีความสำคัญและน่าเป็นห่วงมากกว่าการปลูก และในวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ที่จะปลูกฝังให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของต้นไม้ เพราะต้นไม้1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้เฉลี่ย 9 – 15 กิโลกรัม/ปี ทั้งยังช่วยดักจับฝุ่นและมลพิษในอากาศ ได้ 1.4 กิโลกรัม/ปี ดังนั้น ต้นไม้หนึ่งต้นเมื่อรวมกันเป็นผืนป่าใหญ่จึงมอบชีวิตให้แก่เรา

ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า สำหรับวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2567 นี้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดโครงการในชื่อ “โครงการบำรุงรักษาต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และกิจกรรมบำรุงรักษาต้นไม้เนื่องในวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2567” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในน้ำพระราชหฤทัยอันประเสริฐของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่มีต่อประเทศ และพสกนิกรชาวไทย และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาถวายเป็นราชสักการะด้วยการร่วมกิจกรรมบำรุงต้นไม้ และเพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบำรุงรักษาต้นไม้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ณ วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

การจัดงานเพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยอย่างอเนกอนันต์ต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ ดังจะเห็นได้จากที่พระองค์ได้ทรงพัฒนาพื้นที่ดอยตุง จ.เชียงราย จากเมื่อครั้งอดีตเป็นเพียงภูเขาหัวโล้นที่มีสภาพป่าเสื่อมโทรม พลิกฟื้นให้เป็นผืนป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารและพัฒนาให้ชาวบ้านที่อาศัยบนดอยตุงมีคุณภาพชีวิตด้านสังคมและเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยปลูกฝังให้ทุกคนอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึกและร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ พระองค์มีพระปณิธานอย่างแรงกล้าที่จะฟื้นฟูความสมดุลของธรรมชาติ โดยทรงปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ด้วยพระองค์มาตลอดพระชนม์ชีพจากน้ำพระราชหฤทัยนี้ได้จารึกในหัวใจของประชาชนชาวไทยตลอดมา พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ที่ทรงสร้างขึ้นล้วนแล้วแต่ยังประโยชน์ต่อพสกนิกรชาวไทยมาจนถึงทุกวันนี้

รมว ทส กล่าวต่ออีกว่า สำหรับกิจกรรมการจัดงานวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2567 จะจัดเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยจะมีกิจกรรมบำรุงรักษาต้น “จัน” ต้นไม้ทรงปลูกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและต้น “จัน” ต้นไม้ทรงปลูกในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงปลูกเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2564 ในคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอนุรักษ์และพัฒนาวัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร และทรงเปิดวิทยาลัยเสริมทักษะพระภิกษุสามเณร กิจกรรมการตัดแต่งกิ่งไม้ โดยรุกขกรของกรมป่าไม้ ตลอดจนเยี่ยมชมโครงการแหล่งน้ำบาดาลแก้ไขปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริเฉลิมพระเกียรติฯ ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดังนั้น งานวันรักต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี 2567 จึงเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในน้ำพระราชหฤทัยอันประเสริฐของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีที่มีต่อประเทศและพสกนิกรชาวไทย

นาย สุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว ทั้งนี้ กิจกรรมปลูกต้นไม้กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการตลอดปี 2567 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประกอบด้วย 1) โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า ดำเนินการตลอดปี 2567 2) โครงการ 72 ฟื้นถิ่นพรรณไม้ ที่กรมป่าไม้ โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ดำเนินการทุกพื้นที่ตั้งแต่เดือน พ.ค. – ธ.ค.2567 3) โครงการบำรุงรักษาต้นไม้ โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ดำเนินการทุกพื้นที่ตั้งแต่เดือน พ.ค. – ธ.ค.2567 และ4) โครงการจัดทำหนังสือ 72 พรรษา จึงขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันปลูกต้นไม้และดูแล บำรุง ต้นไม้ที่ปลูก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศของเรา