นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช.วาระพิเศษ วันที่ 21 ต.ค.  มีมติ 5 : 2 เห็นชอบ บริษัท ทีซี สเปซ คอนเน็ค จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ได้รับสิทธิการใช้งานดาวเทียมประจำที่ ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก เพียง 1 วงโคร โดยเสนอผลตอบแทนให้รัฐ อยู่ที่ 0.25% ต่อปี ของรายได้ จากที่ยื่นมา 3 วงโคจร เนื่องจาก ทีซี สเปซ คอนเน็ค ไม่ได้ยื่นหลักประกันวงโคจร 51 และ 142 องศาตะวันออก  อีกทั้ง บริษัทยังได้ระบุเงื่อนไขว่า จะใช้บริษัทใหม่ของไทยคมเข้ามาดำเนินการแทน ซึ่ง กสทช.เห็นว่าควรให้เฉพาะบริษัทที่ยื่นเข้ามาคือ ทีซี สเปซ คอนเน็ค เท่านั้น เพราะ กสทช.ยังไม่มีประกาศการโอนสิทธิของดาวเทียมไปให้บริษัทอื่น เหมือนการโอนคลื่นของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ

สำหรับดาวเทียมวงโคจรประจำที่ ตำแหน่ง 50.5 องศาตะวันออก จะสิ้นสุดการรักษาสิทธิวงโคจรกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ไอทียู) วันที่ 27 พ.ย.67 กสทช.จึงต้องการให้เอกชนรักษาสิทธิวงโคจรเป็นหลัก ดังนั้นเงินหลักประกันที่ไทยคมยื่นมา กสทช. ต้องส่งคืนให้ ไทยคม 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้ระบุอีกว่า จะใช้ดาวเทียม 9A ซึ่งเป็นดาวเทียมต่างประเทศที่อยู่บนวงโคจรอยู่แล้ว และมีอายุทางวิศวกรรมอีก 3 ปี ลากมาเพื่อใช้สิทธิวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก จากเดิมที่มีแผนอยู่ในแผนเยียวยาดาวเทียมไทยคม 4 วงโคจรประจำที่ 119.5 องศาตะวันออก ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งล่าสุดดีอีขอขยายอายุทางวิศวกรรมไปถึงเดือน ก.ค. 69 กสทช.จึงเห็นชอบ และขอให้ไทยคม ยื่นแผนเยียวยามาใหม่ เพื่อทดแทนดาวเทียม 9A ที่ถูกโยกออกไปใช้วงโคจร 50.5 องศาตะวันออก

“ทีซี สเปซ คอนเน็ค ยังขอ กสทช.ด้วยว่า ขอคืนสิทธิ หากไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเท่าที่ทราบเขาแจ้งว่า ดาวเทียม 9A มีอายุทางวิศวกรรมอีก 3 ปี ดังนั้น กสทช.จึงอนุญาต แต่ต้องใช้สิทธิรักษาวงโคจรไปก่อน 2 ปี และหากต้องการคืนสิทธิต้องแจ้งล่วงหน้า 1 ปี ”

นายสมภพ กล่าวว่า จากนี้ภายใน 30 วัน จะให้สำนักงาน กสทช.ดำเนินการประกาศเชิญชวนใหม่สำหรับดาวเทียมวงโคจรประจำที่ 51 องศาตะวันออก และ 142 องศาตะวันออก โดยหากไทยคม ต้องการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาขอสิทธิก็สามารถดำเนินการได้ โดยวงโคจร 51 องศาตะวันออก อยู่ในขั้นต้น จึงยังมีเวลาอีก 4-5 ปี ขณะที่วงโคจร 142 องศาตะวันออก เหลือเวลา 1 ปี