เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยว่า วันนี้ เวลา 19.00 น. ที่เพจชื่อ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน” ตนจะเปิดหลักฐานคลิปวิดีโอเด็ด โดยยืนยันว่าไม่ใช่ภาพจากกล้องวงจรปิดแน่นอน ยังไม่อยากให้เดา เพราะอาจเดาผิดได้ และตนไม่สามารถเอาภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านแมคโดนัลด์ในปั๊มเชลล์ แถวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลใกล้บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มาเปิดเผยได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะเป็นคนเก็บข้อมูล แต่ขอให้สังคมรอดู อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่าพวกบรรดาแม่ข่ายของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ จะต้องถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณออกมาให้การที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ก็อาจถูกกันไว้เป็นพยานก็ได้ หากข้อมูลนั้น ๆ ใช้มัดตัวเหล่าบรรดาบอสได้ อีกทั้งยังสามารถนำคำให้การเหล่านี้ไปใช้พิสูจน์ในชั้นศาลเพื่อให้บรรเทาโทษสถานเบาได้

ทนายตั้ม ยังเผยถึงจำนวนทรัพย์สินรายการอื่น ๆ ของบรรดาผู้ต้องหาที่อาจถูกซุกซ่อนไว้ ว่า ตนทราบว่าทางนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด อยู่ระหว่างติดตามเรื่องเงิน USDT จำนวน 8,000 ล้านบาท ที่ถูกโยกย้ายออกไป ตนขอเป็นกำลังใจให้เขาตามเจอไวๆ เพื่อที่เงินเหล่านี้จะได้นำเฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหายได้

ส่วนกรณีที่ปรากฏคลิปวิดีโอภาพกล้องวงจรปิดว่า น.ส.อัยดา กันตถาวร หรือพลอย ภรรยาของนายกันต์ กันตถาวร ขับรถนำขบวนรถตำรวจเข้าไปภายในหมู่บ้านก่อนที่นายกันต์ จะถูกตำรวจ บก.ปคบ. เข้าจับกุมนั้น ทนายตั้ม ระบุว่า เป็นการพาตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์สินภายในบ้าน และตนทราบข่าวว่าภรรยาของนายกันต์ ก็จะถูกดำเนินคดีในฐานะเดียวกับแม่ข่าย

สำหรับกรณีรายการของพิธีกรชื่อดัง อักษร ต. ได้มีการให้แอร์ไทม์แก่ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ในการโฆษณาธุรกิจนั้น ทนายตั้ม เผยว่า ตนยังไม่ได้ฟังว่าพิธีกรได้มีการเชียร์แค่ไหน แต่โดยปกติถ้าไปออกรายการมักไม่เกี่ยวข้อง นอกจากว่าไปพูดเว่อร์เกิน ดึงคน ชวนคน แบบนี้อาจโดนได้ ทั้งนี้ กรณีของ ว.วชิรเมธี ทราบว่าทนายเดชา เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ทนายเดชาคงมีพยานหลักฐานพอสมควรถึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ หากไม่มีหลักฐานแล้วไปแจ้งความก็อาจพลาดถูกดำเนินคดีกลับได้ .