จากกรณีพบศพแรงงานก่อสร้างชาวเมียนมา ที่มาทำงานก่อสร้างวิทยาลัยสงฆ์เพชรบูรณ์ โดยนอนเสียชีวิตลกษณะสวมเสื้อแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีเขียว สวมรองเท้าแตะ กระเป๋าคาดเอวสีน้ำตาล พบบาดแผลที่บริเวณลกคอคล้ายถูกของมีคมเชือด ส่วนที่บริเวณใบหน้าผิวหนังลอกออกหมดคล้ายถูกของมีคมเฉือนและถลกหนังออก ใบหูหายไป 1 ข้าง รวมทั้งมีร่องรอยไฟไหม้ที่บริเวณปากอีกด้วย คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังพบมีปลายแหลมยาวประมาณ 20 ซม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ต.ค. ตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 ประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์และชุดสืบสวน สภ.บ้านกลาง ลงพื้นที่และทราบว่าผู้ตายคือ ออง มิน ที อายุ 48 ปี แรงงานต่างชาติชาวเมียนมา ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายลิน ลิน เอ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นแรงงานต่างชาติชาวเมียนมาเช่นเดียวกัน และพบว่าผู้ก่อเหตุได้หายตัวออกไปจากแคมป์คนงานหลังเกิดเหตุ กระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบแรงงานชาวเมียนมามาขอน้ำและขอเสื้อผ้าเปลี่ยน ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบและพบว่าเป็นนายลิน ลิน เอ จึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านกลาง
จากการสอบสวน นายมิน มิน เอ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ นายออง มิน ที อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นคนงานชาวเมียนมาเหมือนกันแต่อยู่แคมป์คนงานอีกบริษัทหนึ่ง แต่มาทำงานก่อสร้างที่วิทยาลัยสงฆ์เช่นเดียวกัน ได้มากินเหล้าที่แคมป์คนงานของตนเองที่อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร กระทั่งเมาเกิดการโต้เถียงกันตามประสาคนเมา โดยนายออง มิน ที ชอบข่มว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องจะต้องให้ความเคารพ หลังจากกินเหล้าเสร็จตนได้เดินมาส่ง นายมิน มิน เอ ที่แคมป์คนงาน แต่ระหว่างทางก็เกิดมีปากเสียงกันอีกจึงเกิดลงไม้ลงชกต่อยกัน นายออง มิน ที ชักมีดออกมาจะทำร้ายตน ตนจึงเข้าชกต่อยและแย่งมีดมาได้ จึงใช้มีดแทงเข้าไปที่ท้อง 4-5 ครั้ง ฟันเข้าที่ลำคอแต่มีดไม่คมจึงทำให้หลอดลมแตกจนเสียชีวิต หลังจากนั้นด้วยความเมาตนจึงฟันไปที่หน้าและใช้มีดเถือเอาหนังออก จากนั้นตนจึงหลบหนีเข้าไปในป่า และไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจนกระทั่งถูกจับในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป