เมื่อเวลา 11.55 น. วันที่ 18 ต.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจะมีการตรวจสอบ พระเมธีวชิโรดม หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่เคยไปบรรยายธรรมะที่งานสัมมนาของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยช่วงหนึ่งพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี มีการพูดอวย บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และมีการเหน็บประชาชนที่ไม่ได้มาเข้าการสัมมนาในครั้งนั้น ซึ่งเป็นการไม่เหมาะสม ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระ ตนเป็นแค่ฆราวาส ก็คงไม่มีอำนาจไปตรวจสอบอะไร ทั้งนี้หากพระมีข้อที่ไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดอะไรก็ต้องเป็นเรื่องขององค์กรของพระ ที่ต้องกำกับดูแล ทั้งนี้ ตนไม่สามารถไปวิจารณ์ได้ ให้เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ไทย ให้ได้มีการพิจารณากัน เราคงไม่ไปก้าวล่วง 

เมื่อถามต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์บานปลายจะมีการกำชับให้ พศ. ได้เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนแจ้งทาง พศ. ไปแล้วว่า หากเกิดเรื่องขึ้นมา ก็จะให้มีการพิจารณาและให้ส่งเรื่องมาว่าเป็นอย่างไร ขอย้ำว่า เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ เราไม่สามารถไปตัดสินได้ในเวลานี้ เว้นแต่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ พศ. ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องให้ พศ.ทำการรายงานมาว่า เรื่องราวมันเป็นอย่างไร และต้องทำอย่างไรต่อ ให้ดูรายละเอียดให้รอบคอบ หากเกิดปัญหาใดให้ส่งเรื่องเข้ามาได้ และ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้กำชับไปแล้วว่า มีอะไรก็ขอสรุปมาให้รับทราบด้วย

เมื่อถามว่าหากเป็นคดีอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจัดการได้เลยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราดูในภาพรวมเท่านั้น 

เมื่อถามอีกว่าโดยตามหลักพระพุทธศาสนาถือว่าผิดหรือไม่ที่ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี  ได้ออกมาพูดในกรณีคลิปดังกล่าว นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถไปชี้ได้ว่าผิดไม่ผิด เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่พระนั้นแค่เทศน์อย่างเดียว ปัจจุบันพระก็ได้มีการแสดงความเห็นมากขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องของพระด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวได้มีองค์กรที่กำกับดูแลอยู่ ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลในเรื่องนี้

เมื่อถามต่อว่าในฐานะที่ดูแล พศ. ตอนนี้เรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว จะทำให้การนับถือพระสงฆ์เสื่อมถอยลงไปหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะเสื่อมหรือไม่เสื่อม ก็อยู่ที่วิจารณญาณของประชาชน  ซึ่งในอดีตก็มีพระมากมายที่มาแสดงออกในเรื่องต่าง ๆ เมื่อถึงเวลาหนึ่งสังคมก็ได้มีการพิพากษาว่ามันเป็นอย่างไร แต่ในครั้งนี้เราไม่ควรไปตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร ให้องค์กรได้ดูแลหน้าที่กันต่อไป

เมื่อถามว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะนำเรื่องนี้ไปรายงานให้กับสมเด็จพระสังฆราชได้รับทราบ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าองค์กรของท่าน มีคนดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว