เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น, ตำรวจท่องเที่ยว,ชุ ดปฏิบัติการพิเศษ และกำลัง อส. ประจำการทางเข้า-ออก และพื้นที่จุดเสี่ยงรอบห้างสรรพสินค้า ตามมาตรการป้องกันและรักษาความปลอดภัยต่อเนื่อง ภายหลังจากมีมือดีโพสต์ข่มขู่ในลักษณะจะเตรียมการก่อเหตุยิงกราดในพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น เมื่อช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา (17 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมพื้นที่ตรึงกำลังอย่างเข้มงวด แต่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

‘พ่อเมืองขอนแก่น’ สั่งเข้มห้างดัง หลังถูกโพสต์ขู่ ด้านตร.แกะรอย ‘มือดี’ รู้แล้วว่าเป็นใคร

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ยังคงคุมเข้มที่ศูนย์การค้าดังกล่าว รวมทั้งพื้นที่จุดเสี่ยงต่างๆ ในเขตจังหวัดอย่างเข้มงวดต่อเนื่องต่อไปตลอดทั้งสัปดาห์ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่มาใช้บริการและพนักงานที่ทำงานในศูนย์การค้าแห่งนี้ ซึ่งศูนย์การค้าจะยังคงเปิดให้บริการตามปกติคือเวลา 10.00-21.00 น. ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท กำลังเจ้าหน้าที่ อส. และตำรวจ จะประสานการทำงานร่วมกับกันห้างฯ ในการตรวจสอบคนเข้า-ออกอาคารอย่างเข้มงวด มีการจัดชุดสายตรวจเดินตรวจสอบภายในภายนอกห้างฯ อยู่ตลอดเวลา และการตรวจสอบคนต้องสงสัย ทั้งตามที่ปรากฏในโซเชียลและบุคคลทั่วไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่าจะมีคนมาใช้บริการที่ศูนย์การค้าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นจังหวัดและทุกหน่วยงานจะยังคงคุมเข้มในทุกมาตรการและจะประมาทไม่ได้

พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ที่ก่อเหตุโพสต์ในลักษณะดังกล่าวอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย ที่เป็นคนโพสต์ เพียงแต่สงสัยว่าบุคคลนี้เป็นบุคคลเดียวกันกับที่โพสต์ตามที่ปรากฏ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานงานไปตามที่อยู่และรายละเอียดต่างๆ ตามที่ข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งยังไม่พบตัว

“ขณะนี้ตำรวจได้มีการสืบสวนจากเฟซบุ๊ก เบื้องต้นมีการใช้ชื่อโปรไฟล์เป็นภาพเมียนมา ส่วนรูปโปรไฟล์เป็นผู้ชายลักษณะผอม ผิวขาว ยังไม่สามารถที่จะยืนยันตัวหรือพื้นที่ในการโพสต์ได้ และยังไม่สามารถบอกได้ว่า อยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นหรือไม่ รวมทั้งจะเป็นคนไทยหรือคนเมียนมาหรือไม่ ขณะนี้ได้ประสานไปยังตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น และตำรวจสืบสวนภาค 4 ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการติดตามจากคอมพิวเตอร์แล้ว เพื่อช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะถือว่าเป็นความผิดทาง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) นำข้อความเป็นเท็จและสร้างความแตกตื่น จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดตามขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวนต่อไป” ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าว