พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ในระบบเอฟเอ็ม สำหรับการให้บริการกระจายเสียงประเภทกิจการทางธุรกิจ ระดับท้องถิ่น จำนวน 2,507 คลื่น โดยเงื่อนไขการประมูล จะมีการตั้งราคาเริ่มต้นประมูล 25,000 บาท เคาะราคาเพิ่มครั้งละ 1,000 บาท หรือมากกว่าจำนวนเท่าของ 1,000 บาท กี่เท่าก็ได้ และไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่กำหนดเวลาในการเคาะ แต่ต้องเคาะราคาให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมง และกำหนดชำระค่าประมูลใบอนุญาต 2 งวด โดย สำนักงานเตรียมออกประกาศฯเชิญชวนเอกชนที่สนใจทำวิทยุชุมชนประเภทธุรกิจ ในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 67 นี้ คาดว่าจะสามารถจัดประมูลได้ในช่วงกลางปี 68 โดยการกำหนดวันประมูลที่ชัดเจนต้องรอบอร์ด กสทช. เห็นชอบร่วมกันก่อน

“กสทช. ไม่ต้องการให้การประมูลครั้งนี้เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุน ดังนั้นจึงกำหนดเกณฑ์เงื่อนไขให้ 1 นิติบุคคล สามารถมีคลื่นวิทยุได้เพียง 1 คลื่น โดยผู้บริหารต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดที่ตนเองต้องการเข้าร่วมประมูลทำธุรกิจ แต่ตอนยื่นประมูลสามารถยื่นได้ 2 คลื่น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเก่า มีโอกาสในการทำธุรกิจ แต่หากชนะประมูลทั้ง 2 คลื่น ต้องเลือกเพียงคลื่นเดียว ส่วนอีกคลื่นต้องเสียสละให้คนยื่นราคาลำดับที่สองแทน โดยการประมูลครั้งนี้ ไม่ได้คาดหวังเรื่องจำนวนเงิน แต่เน้นให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิอยู่ได้ต่อไป”

พลอากาศโท ธนพันธุ์ กล่าวต่อว่า การออกประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจประมูล จะช่วยให้ทางสำนักงาน กสทช. ได้ทราบจำนวนผู้สนใจทำธุรกิจวิทยุชุมชนประเภทธุรกิจว่าเหลือเท่าไหร่ และมีความสนใจทำธุรกิจต่อหรือเข้าร่วมประมูลจำนวนเท่าไร จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2,507 คลื่น จากนั้นระหว่างที่รอกระบวนการก่อนประมูล คลื่นดังกล่าวจะสามารถทดลองออกอากาศไปก่อนได้ หลังจากกำหนดการเดิมจะสิ้นสุดการอนุญาตในสิ้นเดือน ธ.ค. 67 นี้ โดยการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เป็นการดำเนินการตามกฎหมายที่ระบุว่า วิทยุประเภทธุรกิจต้องจัดการประมูลเพื่อให้ใบอนุญาต โดยหากเปิดให้ยื่นความประสงค์ร่วมประมูลแล้ว จะนำดำเนินการกลั่นกรองคุณสมบัติ คาดว่าใช้เวลา 3 เดือน จากนั้นจะนำเสนอบอร์ด พิจารณาเลือกวันประมูลอีกครั้งหนึ่ง คาดว่ากระบวนการต่างๆ จะแล้วเสร็จและจัดประมูลได้กลางปี 68