ในเดือน มี.ค. 2564 หนุ่มจีนวัย 33 ปีจากมณฑลซานตง ซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า ลู่ เริ่มรู้สึกว่าภรรยาของเขาใช้เวลานานผิดปกติในการพาลูกสาวของพวกเขาไปหาครูสอนพิเศษส่วนตัว จึงตัดสินใจแอบติดตามความเคลื่อนไหวของเธอ

ลู่ พบว่าภรรยาของเขาเข้าไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในท้องถิ่น เขาจึงเริ่มสงสัยว่าเธออาจมีชู้ และเมื่อเขาบุกเข้าไปถึงห้องพักของเธอจึงได้รู้ว่าความสงสัยของเขาเป็นความจริง ลู่พบภรรยาของเขาอยู่ในชุดชั้นในตัวจิ๋วนอนเคียงข้างกับชายอีกคนที่อยู่ในสภาพเปลือย ซึ่งมีการระบุชื่อในเวลาต่อมาว่า นายหลิว

ลู่ลงมือทำร้ายร่างกายหลิวด้วยความโมโหและเตะภรรยาของเขา แต่ในที่สุดแล้ว เขาก็ยอมรับเงินจากหลิวจำนวน 25,000 หยวน (ราว 117,151 บาท) ในลักษณะผ่อนจ่ายผ่านระบบออนไลน์จำนวน 3 ครั้ง เพื่อเป็น “ค่าชดเชย” ที่หลิวหลับนอนกับภรรยาของเขา

หลังจากนั้น ลู่ก็ขอหย่ากับภรรยา แต่ในระหว่างฟ้องหย่ากันนั้นเอง ลู่ก็ต้องตกใจมากที่พบว่าหลิวยื่นเรื่องร้องเรียนเขาในข้อหากรรโชกทรัพย์

จนถึงทุกวันนี้ ลู่ก็ยังคงเชื่อมั่นว่า อดีตภรรยาของเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการวางแผนให้หลิวร้องเรียนเขา เนื่องจากเธอต้องการเป็นฝ่ายได้เปรียบในคดีฟ้องหย่าและต่อสู้เพื่อแย่งชิงสิทธิในการเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเขา 

ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ศาลแขวงได้ตัดสินลงโทษลู่ด้วยการจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน จากข้อหารีดทรัพย์โดยข่มขู่ว่าจะเปิดเผยความลับเรื่องการคบชู้ของนายหลิว และบังคับให้เขาจ่ายเงินเป็นค่าชดเชย

แต่ลู่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขายื่นอุทธรณ์เมื่อเดือน มี.ค. 2565 แต่ศาลประชาชนชั้นกลางประจำเมืองจือปั๋วก็พิพากษายืนตามคำตัดสินเดิม หลังจากนั้นลู่ก็พยายามยื่นคัดค้านคำตัดสินอีกครั้งในเดือน ธ.ค. 2565 แต่ศาลชั้นกลางก็ยังคงปฏิเสธคำขอของเขา

ลู่ยืนกรานคัดค้านและร้องเรียนคำตัดสินเดิมไปยังศาลสูงประจำมณฑลซานตงซึ่งระบุว่า คำตัดสินเดิมไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงบางประการ อีกทั้งหลักฐานบางชิ้นก็มีความขัดแย้งกัน จึงมีคำสั่งให้ศาลประจำเมืองจือปั๋วเปิดพิจารณาคดีนี้อีกครั้ง

ศาลได้เปิดพิจารณาคดีของลู่ครั้งใหม่เมื่อตอนต้นปีนี้เอง และตัดสินให้ลู่พ้นผิดจากข้อกล่าวหา โดยชี้ว่าเขาไม่ได้บีบบังคับให้นายหลิวจ่ายเงิน 25,000 หยวนให้เขา แต่เป็นการเจรจาตกลงร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พิพากษายังตัดสินว่าการกระทำของนายหลิวละเมิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน ประเพณีอันดีงามและมาตรฐานทางศีลธรรม ดังนั้น การกระทำของนายลู่ผู้เป็นสามีในเวลานั้นจึงถือว่าชอบธรรมแล้ว

ที่มา : odditycentral.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES