นายเรืองพจน์ ธารานาถ ผอ.สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้กำหนดแนวทางเพื่อป้องกันการเผาเศษวัสดุจากการทำการเกษตร โดยใช้วิธีทันสมัย ประกอบด้วย 1.Re-Habit : ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชแบบไม่เผา 2.Replace with High Value Crops : เปลี่ยนชนิดและวิถีการปลูกพืชบนพื้นที่สูง 3.Replace with Alternate Crops : เปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นที่ราบโดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ซึ่งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานลดการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ผ่านการจัดงานรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มจากการบริหารจัดการเศษวัสดุและจัดการแปลงที่ปลอดการเผา สู่มาตรฐาน GAP เพื่อสร้างสินค้าเกษตรคาร์บอนต่ำและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร

การรณรงค์แก้ปัญหาการเผา ต้องดำเนินการที่ต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ประสบผลสำเร็จในการขับเคลื่อนงานลดการเผาในพื้นที่เกษตร อาทิ เชียงรายจัดกิจกรรม “Chiang Rai Zero Burn Model” ได้รับรางวัลเลิศรัฐ ปี 2567 ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม โดยการจัดการฟางข้าวแบบปลอดการเผาด้วยการส่งเสริมการอัดฟางและไถกลบ พิษณุโลก ดำเนินกิจกรรม “ฟางทองคำ ลด PM2.5 เพิ่มมูลค่าอย่างยั่งยืน” ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ลดการเผาตอซังข้าว ซึ่งเป็นต้นเหตุของฝุ่นละออง PM2.5 และสร้างรายได้จากการอัดฟางข้าวจำหน่าย เกษตรกรในพื้นที่ มีการรวมตัวก่อตั้งชมรมฟางอัดก้อนพิษณุโลกและจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนฟางอัดก้อนพิษณุโลก เพื่อส่งเสริมการนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์และรวบรวมเพื่อการค้า ซึ่งได้ทำสัญญาซื้อขายฟางก้อน จำนวน 9 แสนก้อน มูลค่ารวม 18 ล้านบาท

เชียงใหม่มีโครงการ “แม่แจ่มโมเดล” หมู่บ้านนำร่องปลอดการเผาในพื้นที่เกษตร เพื่อแก้ปัญหาการถูกชะล้างของหน้าดินบนพื้นที่สูง อันเกิดจากการปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นพืชเชิงเดี่ยวด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีการผลิต ส่งเสริมการปลูกพืชผสมผสานที่มีตลาดรองรับ ช่วยยับยั้งการบุกรุกป่า ลดปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาไร่ ที่สำคัญคือ การปรับเปลี่ยนแนวคิดในการทำเกษตรแบบดั้งเดิมเป็นการทำเกษตรแบบปลอดการเผา รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน หน่วยงานภาคีต่าง ๆ เพื่อเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานและแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป