เกรท วอลล์ มอเตอร์ ย้ำประเทศไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาตรที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางสำหรับการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ล่าสุด ได้เร่งเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายนี้ผ่านแนวคิด Local Excellence to Global Success ด้วยการเสริมศักยภาพให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแบบรอบด้าน ผ่านการปรับกลยุทธ์เพื่อเร่งเครื่องมุ่งสู่เป้าหมาย 4 ด้าน

ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมขั้นสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย, บริการหลังการขายที่ครอบคลุม รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ, การขยายเครือข่ายและการบริหารผู้จัดจำหน่ายเพื่อการขายที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการขยายธุรกิจฟลีทและรถยนต์ใช้แล้วภายใต้ GWM Certified Pre-Owned (CPO) และการสร้างแบรนด์ให้แตกต่างสู่การเป็นแบรนด์ในใจของคนไทยและคนทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จทั้งระดับภูมิภาคและบนเวทีโลก เพื่อก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างแข็งแกร่ง

นายปาร์คเกอร์ ฉี ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลกภายใต้กลยุทธ์ “Ecological Globalization” เนื่องจากเป็นพื้นที่เปี่ยมด้วยศักยภาพสูงในหลาย ๆ ด้าน เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าภายใต้การดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Local Excellence to Global Success จะทำให้การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและการก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าด้วยความมั่นคงและยั่งยืน ที่ผ่านมาได้ลงทุนในประเทศไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านบาท และภายในอีก 3 ปีข้างหน้านี้เราจะลงทุนเพิ่ม รวมแล้วเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 23,000 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาด ต่อจากนี้จะผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พวงมาลัยขวาสู่ผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก”

ส่วนแผนการตลาดในปี 2568 ว่าเกรทวอลตรียมเปิดตัวรถยนต์แทงก์ (TANK) 300 และ แทงก์ 500 รถเอนกประสงค์ (เอสยูวี)  ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงรถกระบะโพเออร์ (POER) ที่จะมีทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และระบบไฮบริด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเมืองไทย และน้ำมันดีเซลยังถูก นอกจากนี้ยังพร้อมเปิดตัวฮาวาล เอช6 ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด (พีเอชอีวี) รุ่นปรับโฉมใหม่ รวมทั้งนำรถเอสยูวีมาโชว์ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2 รุ่น และปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายรวม 20,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ตั้งไว้ 9,000-10,000 คัน ซึ่งลดลงจากเป้าหมายเดิม 13,000 คัน เนื่องจากตลาดรถยนต์ในไทยหดตัวลงกว่า 23% เพราะแข่งขันสูง อย่างไรก็ตามปัญหาสงครามราคาเป็นไปตามกลไกการตลาด แต่เราพยายามให้ส่วนลดมากกว่า เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับแบรนด์และอุตสาหกรรมระยะยาว ซึ่งเกรทวอลฯเข้ามาทำตลาดในไทยเป็นความตั้งใจลงทุน