เมื่อวันที่ 15 ต.ค. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน มีข้อสั่งการให้พิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนมาตรา 33 เพิ่มค่าเลี้ยงดูบุตรจาก 1 พันบาท เป็น 3 พันบาท ต่อเนื่อง 7 ปี แต่ให้เลี้ยงเด็กที่ต่างจังหวัด ว่า ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมอยู่ระหว่างการศึกษาว่าควรจะพัฒนาสิทธิประโยชน์อะไรให้กับผู้ประกันตนบ้าง อย่างเรื่องการเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่คิดกันอยู่ ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ รมว.แรงงาน ที่ต้องการให้ผู้ประกันตน หรือกำลังแรงงานในอนาคต เพื่อทดแทนวัยแรงงานที่จะกลายเป็นผู้สูงอายุต่อไป ในขณะที่อัตราเด็กเกิดใหม่น้อยลงเรื่อยๆ คณะกรรมการประกันสังคมเลยคิดว่า จะส่งเสริมในเรื่องนี้ และจะดูว่าเงินในกองทุนฯ จะสามารถปรับเพิ่มในส่วนนี้ได้หรือไม่ แต่เบื้องต้น ในปัจจุบันได้ปรับเพิ่มให้แล้วเป็น 1 พันบาทต่อเดือน ซึ่งอยู่ระหว่างรอประกาศเป็นกฎหมายมาบังคับใช้กับแรงงานทุกคน
เมื่อถามถึงกรณีที่ระบุว่า หากปรับเพิ่มเป็น 3 พันบาทต่อเดือน แต่ต้องส่งเด็กไปให้ปู่ ย่า ตา ยายเลี้ยงที่ต่างจังหวัด นายบุญสงค์ กล่าวว่า อันนี้ไม่ใช่ เพียงแต่เป็นความคิดนอกกรอบเพื่อสร้างให้ทุกคนมีความรู้สึกว่า การมีลูกจะเป็นประโยชน์กับการดูแลครอบครัว การเพิ่มประชากรของประเทศ ซึ่งเงิน 3 พันบาทนี้ คิดว่า เป็นจำนวนเงินที่เพียงพอในการดูแลเด็กที่ต่างจังหวัดได้ อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับเพิ่มจริง ผู้ประกันตนมาตรา 33 ก็ต้องได้เหมือนกันทั้งประเทศ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงดูที่ไหน
เมื่อถามถึงมาตรการส่งเสริมการมีบุตรของผู้ประกันตนเพิ่มเติม ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การเพิ่มค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นเบื้องต้น และส่วนอื่นคือเพิ่มค่าคลอดมากกว่า 1.5 หมื่นบาท แต่ในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 40 (ผู้ประกันตนเอง) ที่มีมติเพิ่มค่าคลอดบุตรไปแล้ว มี 3 ทาง เลือก ตั้งแต่ 1 พันบาท ถึง 3 พันบาท ซึ่งผ่านมติคณะกรรมการประกันสังคมแล้ว แต่มาตรา 33 อยู่ในชั้นการพิจารณาแนวคิด
