เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง กรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ว่า แม้จะไม่ใช่เรื่องของสภาโดยตรง แต่เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เรื่องนี้เป็นการวัดความจริงใจของรัฐบาล สืบเนื่องกันมาตลอด 20 ปี ในการนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินคดี และการลาออกไม่ได้ส่งผลต่อการทำหน้าที่ของรัฐ ไม่ได้ส่งผลในการทำหน้าที่ประสานขอตัวมาลงโทษ ซึ่งการประชุมคณะกรรมาธิการ การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ทราบว่าผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน หนีออกนอกประเทศ ไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและอังกฤษ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย และมีกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน จึงอยากเห็นความพยายามมากที่สุดของรัฐไทย ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาลงโทษ

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม มองว่าการลาออกของ พล.อ.พิศาล เป็นความรับผิดชอบเบื้องต้น ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความจริงใจที่อยากจะแก้ไขปัญหานี้ หรือดำเนินการตามคำแนะนำของใคร ดังนั้นข้อเรียกร้องในฐานะวิปฝ่ายค้าน ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจ เพราะคดีตากใบไม่ใช่เรื่องของผู้เสียหาย หรือผู้สูญเสีย แต่คือความเชื่อมั่นของประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ และความเชื่อมั่นของประเทศไทยทั้งหมด ว่าอาชญากรรมโดยรัฐที่รัฐต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมองว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ดังนั้นการลาออกถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แน่นอนว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคลเกิดขึ้นด้วยการลาออก แต่ไม่รู้ว่าต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง มากกว่าที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ จึงอยากเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทย อยากเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่มากกว่านี้ ในการนำตัวผู้ถูกดำเนินคดีมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยเพื่อส่งสารถึงคนจังหวัดชายแดนใต้ว่าได้พยายามถึงที่สุด แต่ในความเป็นพรรคการเมืองสำหรับพรรคเพื่อไทย  คงมีคำตอบต่อคนที่เลือกท่านต่อเรื่องที่เกิดขึ้น

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า พรรคประชาชนในฐานะวิปฝ่ายค้าน จะใช้กลไกในการติดตามเรื่องนี้ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชน ทั้งการสนับสนุนการดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดนราธิวาส กลไกผ่านคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ของสภา และการตั้งกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากรัฐบาลรัฐบาลนี้ เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ฝ่ายค้านจะไม่มีการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป และอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสมัยการประชุมนี้ แต่จะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายในสมัยประชุมหน้า ซึ่งจะมีการนำเรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่จะอภิปรายรัฐบาล 

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายค้านได้มีการประเมินสถานการณ์ ถึงกรณีที่คดีหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค. และจำเลยทุกคนกลับมาโดยไม่ถูกดำเนินคดี แต่อยากส่งสารว่าอย่าปล่อยให้ไปถึงวันนั้น แต่เราก็ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้ขยายอายุความ เพราะในกระบวนการวิธีพิจารณาความอาญาไม่สามารถทำได้ และจะทำให้ประเด็นหลักเสียหายไป ซึ่งหากไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ทันเวลา ก็จะทำให้พ้นความรับผิดชอบในทางอาญา แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองคงยังไม่จบลง ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์เพิ่มความรุนแรงไปมากกว่านี้ จึงเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ เช่น การเจรจาของชุดสันติภาพชายแดนใต้ ไม่มีการประชุมมาแล้วหลายเดือน ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็นรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งสารที่ ครม. จะส่งไปถึงประชาชนตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ต.ค. ถือเป็นความสำคัญต่อทิศทางและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งแม้ว่า พล.อ.พิศาล จะลาออกและไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ในสถานะพรรคการเมืองเองอาจมีข้อจำกัดในการแสดงความรับผิดชอบ หรือเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องส่งไปยังนายกรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ในนามของรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ เพราะเป็นเรื่องที่มากกว่าตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่าคดีตากใบไม่ได้เริ่มต้นขึ้นโดยรัฐ แต่เป็นประชาชนที่ยื่นฟ้องต่อศาลเอง จึงต้องย้อนไปดูว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพียงแต่ตอนนี้ต้องการความรับผิดชอบสูงสุดในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ทั้งฝ่ายความมั่นคงฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ส่วนความรับผิดชอบที่จะตามมา คงจะมีรายละเอียดของผู้ที่กระทำความผิดอีก แต่สิ่งสำคัญ เหตุการณ์นี้สะท้อนไปถึงความคิดของรัฐบาลในขณะนั้น และรัฐไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ที่ใหญ่ไปกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบติดตามตัวผู้กระทำความผิด ในกรณีหมดอายุความ จะต้องมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน แต่ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 25 ต.ค. ก็ยังอยากเห็นความพยายามให้มากที่สุด.