เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนประจำ จ.ตรัง ในกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 หลบหนีหมายจับคดีก่อความรุนแรง ก่อให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก หรือเหตุการณ์ตากใบ จ.นราธิวาส มองว่าจะมีผลกระทบต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันอย่างไรบ้าง

นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า เรื่องภาคใต้รัฐบาลที่แล้วของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้บรรจุไว้ในนโยบาย แต่ตนเป็นคนท้วงติงโดยให้ความเห็นว่า ชีวิตสำคัญกว่าเงิน เพราะฉะนั้นนโยบายความผิดพลาดทางเศรษฐกิจอาจจะเสียเงินไปเป็นแสนๆ ล้านก็จริง แต่ถ้าผิดพลาดทางนโยบายความมั่นคงทำให้คนเสียชีวิต มันมีความหมาย มีค่ามาก แต่ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันก็ใส่เรื่องภาคใต้ไว้แค่ 1 บรรทัด จำได้ว่าในหน้า 12 ของการแถลงนโยบายนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ก็แสดงว่ามีการยอมรับในเรื่องนี้ แต่ว่ารายละเอียดไม่มี

ส่วนเรื่องของพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ซึ่งเป็นคดีอยู่นั้น ตนคิดว่ามันเป็นผลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 8 เม.ย.44 ต่อเนื่องมาทั้งทางตรงและทางอ้อม เกี่ยวเนื่องมาอย่างที่เราเห็นว่า มีเรื่องกรือเซะ เรื่องตากใบ และเรื่องการปล้นปืน เหตุการณ์ที่เกิดที่ตากใบนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในเดือน ต.ค. 47 แต่ว่าการปล้นปืนเกิดเมื่อวันที่ 4 ม.ค.47 ซึ่งคิดว่าเป็นผลพวงมาจากนโยบาย 8 เม.ย.44 นโยบายตอนนั้นคือนโยบายที่เปลี่ยนไป โดยใช้วิธีการเก็บเช่น สั่งให้เก็บเดือนละ 10 คน 2 เดือนก็หมด แล้วก็ประกาศว่ารัฐบาลแก้ปัญหาภาคใต้ได้หมด อันนี้เป็นผลโดยตรงและโดยอ้อมที่ต่อเนื่องมาจนถึงเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง

ทั้งนี้สำหรับกรณีตากใบ ตนมีความคิดเห็นว่าเมื่อมีการไต่สวนมูลฟ้องที่ผู้เสียหายเขาฟ้องแล้ว แล้วศาลสั่งมีมูลแล้ว ไม่มีผู้ใดไปศาล ไปรายงานตัว ก็ได้มีการออกหมายจับ ตนคิดว่าในจำนวนคนที่เกี่ยวข้องนั้นมีตั้งแต่ตำรวจ ทหาร พลเรือน อาจจะมีผู้เกี่ยวข้องหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดความเสียหายขึ้นมากน้อยแต่ละคนอาจจะแตกต่างกัน แต่ว่าถ้าผู้ใดที่คิดว่าไม่ได้ทำผิด ตนก็ว่าให้ไปสู้คดีรายงานตัวที่ศาล เพราบุคคลเหล่านั้นหนีคดี มันก็ต้องหนีตลอด หนีข้อหาตลอดชีวิต จะบอกว่าไม่ผิด ถ้าไม่ผิดทำไมไม่สู้คดี อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องตัดสิน ตนแนะนำว่าใครที่คิดว่าไม่ได้ทำผิดก็ไปสู้ที่ศาลกระบวนการยุติธรรม ก่อนที่คดีจะขาดอายุความ มันจะทำให้คดีปรากฏชัดเจนว่าใครทำผิดหรือใครไม่ทำผิด อันนี้เป็นเรื่องที่อยากแนะนำว่า ใครที่เชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิดพร้อมที่จะสู้คดีก็น่าจะมาสู้คดีก่อนที่คดีจะขาดอายุความ