สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวระหว่างการเยือนกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี ขอบคุณความสนับสนุนทางทหารจากรัฐบาลเบอร์ลินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และแสดงความหวังว่า “ความสนับสนุนเหล่านั้นจะไม่ลดลงในปีต่อไป”


ขณะเดียวกัน เซเลนสกีกล่าวถึงการนำเสนอ “แผนแห่งชัยชนะ” ให้ผู้นำเยอรมนีได้รับทราบ และแสดงความหวังว่า สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะยุติ “ภายในปี 2568” และเน้นย้ำว่า การสู้รบนั้น “ต้องยุติด้วยความยุติธรรม”


แม้จนถึงตอนนี้ยังแทบไม่มีการเปิเผยเนื้อหาสำคัญของแผนแห่งชัยชนะ แต่ผู้นำยูเครนยืนยัน ว่าไม่มีเรื่องของการสละดินแดนในภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน โดยเซเลนสกีเน้นย้ำว่า รัสเซียต้องเป็นฝ่ายถอนทหารออกจากแผ่นดินยูเครนก่อนเท่านั้น


ทั้งนี้ การที่ผู้นำยูเครนเดินหน้าเรียกร้องขอความสนับสนุนด้านขีปนาวุธนำวิถีระยะไกลจากตะวันตก ยังแทบไม่ได้รับการตอบสนองมากนัก โดยเยอรมนียังคงปฏิเสธ การให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล “ทอรัส” ที่มีระยะทำการ 500 กิโลเมตร ไกลกว่า ขีปนาวุธ “สตอร์ม ชาโดว์” ของสหราชอาณาจักร และ “สกัลป์” ของฝรั่งเศส ซึ่งมีพิสัยทำการ 250 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม โชลซ์ยังคงยืนยัน การมอบความสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน “อย่างต่อเนื่อง” ปัจจุบัน เยอรมนีเป็นประเทศที่มอบความสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน มากเป็นอันดับสองรองจากสหรัฐ


อีกด้านหนึ่ง รัสเซียยังคงรุกคืบพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนได้อย่างต่อเนื่อง มีการยึดหมู่บ้านในภูมิภาคโดเนตสก์เพิ่มหลายแห่ง และโจมตีทำลายโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับพลังงานของยูเครนมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า จะยิ่งเป็นการเพิ่มความยากลำบากให้กับกองทัพและชาวยูเครน ในการฝ่าฟันฤดูหนาวที่กำลังมาเยือน.

เครดิตภาพ : AFP