จากเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 ยังมีผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 3 คน โดยมี 2 คน คือนักเรียนหญิงอายุ 9 ขวบ และ 7 ขวบ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนอีก 1 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี เข้ารับการรักษาที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์

ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ต.ค. รายแรก เด็กหญิง อายุ 7 ขวบ มีไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ทีมกุมารแพทย์ รายงานว่าสัญญาณชีพปกติ หลังถอดเครื่องช่วยหายในเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา สามารถหายใจได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ แพทย์ได้ปรับยาแก้ปวดและยานอนหลับ สามารถรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ปัสสาวะออกปกติ มีการใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน อาการไข้มีแนวโน้มลดลง ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อแน่ชัด ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เฝ้าระวังการติดเชื้อรุนแรง

ส่วนทีมศัลยแพทย์ รายงานว่า แผลที่ใบหน้าทรงตัว ไม่พบการติดเชื้อชัดเจน ยังทำแผลที่มือ 2 ข้างในระบบปิดด้วยแผ่นยาต้านจุลชีพ จะเปิดแผลที่มืออีกครั้งวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) และมีแผนจะวางผิวหนังปะปลูกวันพุธหน้า (16 ต.ค.) ขณะที่ทีมจักษุแพทย์ รายงานว่า ผู้ป่วยสามารถหลับตา ลืมตาได้ดีขึ้น การมองเห็นเริ่มดีขึ้น นับนิ้ว (มีเยื่อรกบัง) รกและคอนเทคเลนส์อยู่ตำแหน่งเหมาะสม สำหรับแผนการรักษาคือรอเยื่อรกและเซลล์ต้นกำเนิดสมานผิวกระจกตาและค่อยๆ ละลาย

รายที่ 2 เด็กหญิง 9 ขวบ มีไฟไหม้ใบหน้า ไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) ทีมกุมารแพทย์ รายงานว่า สัญญาณชีพปกติ หลังถอดท่อช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนช่วยการหายใจ ไม่หอบเหนื่อยสามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ แพทย์ได้ปรับยาแก้ปวดและยานอนหลับ ผู้ป่วยสามารถรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี อาการไข้มีแนวโน้มลดลง ยังคงให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง มีภาวะสารน้ำในร่างกายเกิน ใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อขับน้ำเกินในร่างกาย

ส่วนทีมศัลยแพทย์ รายงานว่าหลังจากนำท่อช่วยหายใจออก สามารถหายใจเองได้ มีเสมหะเล็กน้อย สามารถขยับร่างกายเล็กน้อย และพูดแสดงความต้องการได้ แผลอยู่ขั้นตอนการฟื้นฟูตามแผนการรักษา ทีมรักษาวางแผนให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารด้วยตนเองมากขึ้น และเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูบาดแผล ขณะที่ทีมจักษุแพทย์ รายงานว่า ผู้ป่วยสามารถหลับตา ลืมตาได้ดีขึ้น การมองเห็น เริ่มดีขึ้นนับนิ้ว (มีเยื่อรกบัง) รกและคอนเทคเลนส์อยู่ตำแหน่งเหมาะสม ส่วนแผนการรักษาคือเฝ้ารอเยื่อรกและเซลล์ต้นกำเนิดสมานผิวกระจกตาและค่อยๆ ละลาย

รายที่ 3 เป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี รักษาตัวที่ รพ.เด็ก ซึ่งออกเป็นแถลงการณ์รายงานผลการรักษาว่า จากการตรวจรักษาของวันที่ 11 ต.ค. ผู้ป่วยอาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้โดยรวมดีขึ้นแต่ยังต้องเฝ้าระวังบาดแผลแขนซ้าย ตอบสนองต่อการรักษาดี ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถทำกายบริหาร ยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก เพื่อป้องกันข้อติด และทำกิจกรรมถักเชือก เพื่อเพิ่มการใช้งานของข้อมือนิ้วมือ และฝึกความสนใจจดจ่อได้ดี ด้านจิตใจ อารมณ์คงที่ นอนหลับได้ดีเริ่มมีแผนการดำเนินชีวิต และวิธีการจัดการกับความกังวลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ โดยทีมผู้รักษาจะให้การดูแลรักษาเต็มที่.