จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ออกมาเปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทย มูลค่ารวมกว่า 5.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.37% จากสิ้นปี 2566 โดยมูลค่าการถือครองหุ้นคิดเป็น 30.80% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด

หมวดธุรกิจที่นักลงทุนต่างประเทศถือครองหุ้นสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON) หมวดธนาคาร (BANK) และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) โดยหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงอยู่ในอันดับ 1 ต่อเนื่องจากสิ้นปี 2566 ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 ทั้ง 3 หมวดธุรกิจ มีมูลค่าถือครองหุ้นรวม 2.78 ล้านล้านบาท คิดเป็น 53.62% ของมูลค่าการถือครองหุ้นรวมของนักลงทุนต่างประเทศ

โดยนักลงทุน 10 สัญชาติแรก ที่มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวมสูงสุด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 นี้ ได้แก่

อันดับ 1 นักลงทุนจากสหราชอาณาจักร ยังคงมีมูลค่าการถือครองหุ้นสูงสุดในตลาดหุ้นไทย โดยมูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ (อาทิ MSCI Thailand Index เป็นต้น)

อันดับที่ 2 ยังคงเป็นนักลงทุนจากสิงคโปร์ ที่มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทั้งในหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

อันดับที่ 3 คือ นักลงทุนจากฮ่องกง มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ

อันดับที่ 4 คือ นักลงทุนจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงาน และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

อันดับที่ 5 คือ นักลงทุนจากสหรัฐอเมริกา ที่มูลค่าการถือครองหุ้นส่วนใหญ่กระจายถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่เป็นองค์ประกอบดัชนีอ้างอิงต่างประเทศ

อันดับที่ 6 คือ นักลงทุนจากเนเธอร์แลนด์ ที่ขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 7 จากปีก่อน

อันดับที่ 7 คือ นักลงทุนจากญี่ปุ่น ลงมาจากอันดับที่ 6 จากปีก่อน

อันดับที่ 8 และอันดับที่ 9 คือ นักลงทุนจากไต้หวัน และนักลงทุนจากฝรั่งเศส ที่ปรับขึ้นมาจากอันดับที่ 9 และ 10 จากปีก่อน

ขณะที่นักลงทุนจากมอริเชียส อยู่ในเป็นอันดับที่ 10 ลดลงจากอันดับที่ 8 จากปีก่อน