สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ว่ากระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าได้ดำเนินการตามกระบวนการทางการทูต ต่อกรณี “กองเรือของจีนกระทำการผิดกฎหมาย” ด้วยการ “ปล่อยสัญญาณวิทยุ เปิดไซเรน และบีบแตรเรือ” เป็นจำนวนรวมกัน “มากกว่า 200 ครั้ง” ระหว่างที่เรือของฟิลิปปินส์ “ลาดตระเวนอันเป็นกิจวัตร และอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย ภายในดินแดนและอาณาเขตอธิปไตยของตัวเอง”


ทั้งนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลมะนิลาไม่ได้ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และในบริเวณใดของทะเลจีนใต้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างช่วงต้นปีถึงกลางปีนี้ หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ตรวจพบ “กองเรือประมง” ของจีน จำนวนหลายร้อยลำ เข้ามารวมตัวกันอยู่ในทะเลจีนใต้ บริเวณที่รัฐบาลมะนิลาถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (อีอีแซด)


แม้คณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ มีคำวินิจฉัยเมื่อปี 2559 ในเชิงเป็นคุณแก่ฟิลิปปินส์มากกว่า จากกรณีพิพาทกับรัฐบาลปักกิ่ง เกี่ยวกับหมู่เกาะสแปรตลีย์ หนึ่งในหมู่เกาะขนาดใหญ่ที่สุดของทะเลจีนใต้ แต่รัฐบาลปักกิ่งไม่เคยยอมรับเรื่องนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เคยกล่าวว่า หากจีนยืนกรานว่า “จะมาตกปลาที่นี่ ใครห้ามได้บ้าง” แต่ยืนยันว่า “ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก” ซึ่งเป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์ใช้เรียกทะเลจีนใต้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลมะนิลาไม่อาจประนีประนอมกับอีกฝ่ายได้โดยง่าย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES