เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรมพร้อมผู้ช่วย เดินหน้าเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้บริหารของบริษัทชื่อดัง หลังมีผู้เสียหายหลายรายร้องทุกข์

โดย ทนายตั้ม เปิดเผยว่า ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับทางบริษัทชื่อดัง รวมไปถึงผู้บริหารทั้งหลาย ในเรื่องของ พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือแชร์ลูกโซ่ เรื่องของฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และก็จะเข้าสู่มูลฐานร่วมกันฟอกเงินด้วย ซึ่งวันนี้ตนมีหลักฐานจากผู้เสียหายที่มาร้องเรียนกับตน ว่าได้รับความเสียหายจากบริษัทดังกล่าว และทราบว่าบริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีการให้สินค้าจริง แต่เป็นการหลอกให้ลงทุนให้สมัครคอร์สเรียน ขยับเลเวลขึ้นเป็นขั้นบันได โดยเริ่มจ่าย 2,500 ไปถึง 25,000 และ 250,000 บาท

จากนั้นก็ให้หาลูกทีม ตนจึงมองแล้วว่า ไม่ได้มีการจะขายสินค้าจริง แต่เป็นลักษณะการแชร์ลูกโซ่ โดยใครที่เป็นระดับดีลเลอร์ที่จ่าย 250,000 บาท จะได้รับสิทธิพิเศษ นัดทานข้าวกับระดับบอส โดยจะเน้นให้ความเป็นกันเองเพื่อให้การลงทุน แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ผู้เสียหายกลับไม่ได้รับสินค้า เมื่อทวงถามในบางราย ก็ได้สินค้าที่เกือบหมดอายุมา และเมื่อวานนี้ ที่ทางบริษัทออกมาโต้ว่าดาราทั้งหลายไม่ได้เป็นผู้บริหาร เป็นเพียง “ผู้ช่วยการตลาด” การกระทำดังกล่าวยิ่งชัดว่า ที่ผ่านมาเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะตอนแรกอ้างว่าเป็นผู้บริหาร ทำให้ประชาชนหลายคนหลงเชื่อและตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน จนทำให้ผู้เสียหายบางรายคิดจะฆ่าตัวตาย

“นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์โชว์นาฬิกาหรูหลายเรือน รวมมูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท กับการทำอาชีพพิธีกรรายการ จะมีรายได้ขนาดนี้เลยเหรอ นอกจากจะไปรับเปอร์เซ็นต์จากบริษัทดังกล่าว” ทนายตั้มตั้งข้อสังเกต

ด้าน “อี้ แทนคุณ” กล่าวว่า นอกจากบอสที่ทนายตั้มจะแจ้งความในวันนี้ ยังทราบว่ามีผู้หญิงอีกราย “อักษรย่อปอปลา” ที่เป็นมือขวาของผู้บริหาร และเป็นคนออกแบบวางระบบนี้ มีการประชุมร่วมกับดาราทั้งหลาย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ดาราพิธีกรจะไม่ทราบว่ามีกระบวนการดังกล่าว และคาดว่าดาราน่าจะรับเงินจากบริษัทดังกล่าว 10% จึงมั่นใจว่าจะดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ทาง “หนุ่ม กรรชัย” โดนข่มขู่กลางรายการหลังออกมาเปิดโปงบริษัทนี้ “ทนายตั้ม” จะเกรงกลัวหรือไม่นั้น ทนายตั้ม ระบุว่า ตนไม่กลัวและพร้อมจะเดินหน้าช่วยประชาชน และตนได้มีการพูดคุยกับทาง “หนุ่ม กรรชัย” ทาง หนุ่ม กรรชัย เอง ก็ยินดีที่จะเคียงข้างประชาชน ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนดารา แต่ก็ยอมตัดความสัมพันธ์ เพราะสงสารผู้เสียหาย.