นายฐิติพร ธรรมาภิมุขกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายโซดาสิงห์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดโซดาที่ปัจจุบันมีปริมาณการขาย 500 ล้านลิตร ปีนี้คาดว่าติดลบ 5% ตามทิศทางเดียวกับตลาดเหล้าสีที่ติดลบ 10% จากปัจจัยเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว ส่งผลให้นักดื่มออกมานั่งดื่มเหล้าสังสรรค์นอกบ้านน้อยลง แล้วหันไปดื่มเบียร์อยู่กับบ้านแทน

สำหรับช่วงที่ผ่านมาโซดาสิงห์จึงได้เริ่มขยายตลาดในต่างประเทศอย่างจริงจังมากขึ้น จนปัจจุบันมีส่วนการขายในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% โดยตลาดหลัก ได้แก่ เกาหลีใต้ที่เริ่มเข้าไปจำหน่ายจริงจังในช่วง 2 ปีก่อน ผ่านตัวแทนจำหน่าย จนมียอดขายเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัว รวมไปถึงตลาดจีน และฮ่องกง 

ทั้งนี้ ปกติคนเกาหลีจะดื่มโซจู ส่วนคนจีนไม่ดื่มเหล้าแบบผสม แต่หลังจากได้เริ่มทดลองดื่มเครื่องดื่มผสมโซดาสิงห์ ทำให้ขณะนี้วัฒนธรรมการดื่มเริ่มมีการผสมโซดาจนกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งเกิดจากดาราเกาหลี ที่เริ่มโพสต์ในโซเชียลจนเกิดเป็นกระแส รวมไปถึงบริษัทเองได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์ในงานคอนเสิร์ต และใช้อินฟลูเอนเซอร์สร้างการรับรู้มากขึ้นด้วย

“การบุกตลาดจริงจังในต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเพราะตลาดในประเทศไทยเรามีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 92% อยู่แล้ว และตลาดเริ่มไม่เติบโตจึงต้องออกไปโตข้างนอก อีกทั้งมองว่าต่างประเทศเป็นตลาดใหญ่ที่มีโอกาสได้อีกมาก โดยที่ใน 1-2 ปีนี้ จะเน้นสร้างการรับรู้เพิ่มขึ้น และในอนาคตหากประเทศไหนที่มีการตอบรับดีก็มีโอกาสที่จะเข้าไปตั้งโรงงานเพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งและช่วยให้ราคาขายถูกลงด้วย“

นายฐิติพร กล่าวว่า ตลาดในประเทศปีนี้จะใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท สำหรับทำกิจกรรมการตลาดเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาด 92% อย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นสปอนเซอร์งานคอนเสิร์ต โชว์การผสมโซดากับเครื่องดื่มแบบง่ายๆ และล่าสุด จับมือกับแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานของโลกอย่างฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson) เป็นครั้งแรก เปิดตัวโซดาดีไซน์ฉลากพิเศษลิมิเต็ดเอดิชัน และทำกิจกรรมการตลาด สร้างสีสันให้กับตลาดไทย และขยายฐานลูกค้ากลุ่มชื่นชอบและขับขี่รถจักรยานยนต์

นายมาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความมุ่งมั่นในการขยายพันธมิตรที่จะมาร่วมเติมสีสันให้กับไลฟ์สไตล์แบบ Harley-Davidson และยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Harley-Davidson ในการเข้าถึงตลาดไทยอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งชูภาพลักษณ์ระดับตำนาน ความซ่า และแนวคิดอิสระภาพแห่งการผจญภัยที่ทั้งสองแบรนด์มีร่วมกัน