เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่โรงแรม Landmark เวียงจันทน์ สปป.ลาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
โดยนายกฯ กล่าวเสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมประกาศให้ปี 2568 เป็นปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูต หรือ Golden Year of Friendship เนื่องจากจะครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน โดยไทยพร้อมร่วมมือกับจีนเพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน และร่วมกันแก้ปัญหาในภูมิภาค สร้างประชาคมที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และหวังว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีจีน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ประเทศไทยปีหน้า
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศ เห็นว่าด้านความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม จะจัดการประชุม JC เศรษฐกิจไทย – จีน ครั้งที่ 7 ได้ในเร็ววัน และเห็นว่า ทั้งสองประเทศควรร่วมมือกันส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมการค้าและการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตร โดยไทยมีความพร้อมสูงด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้านคมนาคมขนส่ง พลังงาน และการเงิน จึงหวังที่จะร่วมมือกับจีนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และขอเชิญบริษัทที่มีศักยภาพของจีนมาลงทุนสาขาต่าง ๆ ในไทย
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ไทยหวังและพร้อมร่วมมือกับจีนในการเร่งปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและธุรกิจสีเทา และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ทั้งในกรอบทวิภาคีและกรอบภูมิภาค นอกจากนี้ จีนได้ตอบรับคำขอของไทยและชะลอการปล่อยน้ำลงแม่น้ำล้านช้าง มีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย
สำหรับความร่วมมือในภูมิภาคนั้น ไทยและจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้างในปี 2568 และไทยยังขอบคุณจีนที่สนับสนุนเจตนารมณ์ของไทยที่จะเป็นสมาชิก BRICS ด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวแสดงความยินดีในการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมั่นใจว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ฯ ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนจะมีความลึกซึ้งและกว้างขวางยิ่งขึ้น รวมทั้งการขยายความร่วมมือไปในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทันสมัย อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า การเกษตร การเชื่อมโยงด้านคมนาคม จีนยังพร้อมร่วมมือกับไทยในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามแดนในรูปแบบต่างๆ ด้วย
นายกฯจีน ยังกล่าวแสดงความชื่นชม ซอฟต์พาวเวอร์ไทยทั้ง ผ้าไทย มวยไทย ที่ได้รับความนิยมในประเทศจีนอย่างมากและเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทยจีนครบ 50 ปีในปีหน้าด้วย.
