นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ทรู ได้เปิดตัวแคมเปญยิ่งใหญ่ “แชมป์ สปิริต, ทรู สปิริต คิดอย่างแชมป์ ทำอย่างแชมป์” ดึง  “เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” ฮีโร่แห่งชาติและเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ที่มีความุ่งมั่น ด้วยสปิริตนักสู้ จนทำให้คว้าแชมป์มาให้คนไทยได้ชื่นชม  ซึ่งความมุ่งมั่นของเทนนิสสะท้อนถึงความเป็นทรูที่ไม่ยอมแพ้ ต้องทำให้ดีที่สุด  จนทำให้สามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำโทรคมนาคม เทคคอมปานี  

“ทรูสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำโทรคมนาคม เทคคอมปานี  และเป้าหมายสำคัญต่อไปคือการสร้างดิจิทัล ทรานฟอร์เมชั่น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้ากว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตของทุกคนดีขึ้นในทุกๆ วัน”

นายมนัสส์ กล่าวต่อว่า สำหรับการรวมแบรนด์ ทรู และดีแทคนั้น ตามเงื่อนไขของ กสทช.ห้ามรวมแบรนด์ใน 3 ปี โดยสามารถรวมกันได้ตั้งแต่ปี 69 ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะรวมกันเมื่อใด ตอนนี้มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้กับทั้งลูกค้าทรู และดีแทค ให้ได้รับบริการที่ดีเหมือนกัน  โดยตอนนี้ลูกค้าทั้งสองแบรนด์สามารถเข้าใช้บริการในศูนย์บริการได้ทั้งสองแบรนด์  และสามารถใช้งานสิทธิประโยชน์ที่กับพาร์ทเนอร์ของทั้งสองแบรนด์ได้เช่นเดียวกัน  ไม่ว่าจะเป็นการใช้คะแนนรีวอร์ดแลกส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการ 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าในต่างจังหวัดทั้งแบรนด์ทรู และดีแทค อาจมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกันอยู่ เช่น ลูกค้าทรู จะนิยมเอาคะแนนไปแลกซื้อของที่เซเว่น อีเลฟเว่น  ขณะที่ลูกค้าดีแทค ก็เริ่มมีพฤติกรรมนำคะแนนมาซื้อสินค้ามากขึ้นเช่นกัน  ซึ่งในทางการตลาดการรวมแบรนด์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องดูความพร้อมของลูกค้าด้วย เมื่อได้รับประสบการณ์การใช้งานและสิทธิพิเศษที่ไม่แตกต่างกัน การรวมแบรนด์ให้เป็นหนึ่งเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งบริษัทจะดูความพร้อมในเรื่องต่างๆ ก่อน.