เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ที่หอประชุมแห่งชาติลาว นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 (ASEAN Plus Three: APT) ครั้งที่ 27 โดยมีผู้นำประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เข้าร่วม โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณเลขาธิการอาเซียน ในการรายงานความคืบหน้า ความร่วมมือของ APT และขอบคุณสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office: AMRO)  โดยนายกฯ กล่าวถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่ง APT จะยังคงมีประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อความท้าทายเหล่านี้ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  และเน้นย้ำถึง 3 ประเด็นสำคัญในการส่งเสริมให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีความยืดหยุ่น ยั่งยืน และเจริญรุ่งเรือง

นายกฯ กล่าวว่า ดังนี้ ประการแรก การต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อระบบนิเวศดิจิทัล ที่ผู้บริหารยุคดิจิทัลสมัยใหม่ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับยุคดิจิทัล เพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล  ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนโครงการของ APT เพื่อจัดการกับปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์และการหลอกลวงทางออนไลน์ รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินการตามแผนงานความร่วมมือเพื่อปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านอาชญากรรมข้ามชาติกับประเทศคู่เจรจา+3 (ASEAN Senior Officials’ Meeting on Transitional Crime Plus Three: SOMTC+3) ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ประการที่สอง การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและการจัดการทรัพยากรน้ำ ไทยพร้อมสนับสนุนการขยาย APTERR เพื่อรองรับการสำรองอาหารหลักประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะด้านการเกษตรอัจฉริยะ ประการที่สาม  การส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงิน ผ่านการจัดตั้ง Rapid Financing Facility ภายใต้มาตรการริเริ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ของไทย ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralism: CMIM) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนฉุกเฉิน 

นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในปี 2568 นี้ประเทศไทยจะเป็นประธานกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ซึ่งมีประเทศอาเซียน +3 เป็นสมาชิกทั้งหมด  โดยประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการเจรจาและความร่วมมือทางการเงินภายใต้กรอบ ACD เพื่อผลักดันการสนับสนุนเงินทุน เพื่อการพัฒนาของสหประชาชาติต่อไป ทั้งนี้ ความพยายามร่วมกันของ APT จะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างประเทศคู่เจรจา +3  โดยอาเซียนพร้อมสนับสนุนความร่วมมือไตรภาคีที่ดีอย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันเชิงบวกที่ประสานพลังมากขึ้นในกรอบ APT.