น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลา 23.24 น. ของวันที่  9 ต.ค. 2567 ถึงกรณีดังกล่าว ความว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจหรือโออีซีดีอยู่ต่างประเทศ ทันทีที่ได้รับแจ้งกรณีปัญหา บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้สั่งการ สคบ. ตรวจสอบและรายงานในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แก่ 1. กรณีที่ สคบ. เคยมอบโล่รางวัลให้กับบริษัทดังกล่าว ในงานวันคุ้มครองผู้บริโภค ปี 2565 ได้รับรายงานว่า ช่วงโควิด ปี 2563 บริษัทดังกล่าวได้บริจาคแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัยในงานสัมมนาของ กมธ. ซึ่ง สคบ. ได้ร่วมเป็นวิทยากร ในปี 2564 จึงได้รับการเสนอชื่อและได้รับรางวัลจาก สคบ. ในฐานะผู้ทำสาธารณประโยชน์ แต่เป็นช่วงโควิดเลยได้มารับรางวัลในปี 2565 ทั้งนี้ หากต่อมาพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการกระทำความผิด สคบ. จะเพิกถอนโล่รางวัลดังกล่าวต่อไป

ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ สคบ. รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่จะเข้ามาร้องทุกข์ในวันที่ 10 ต.ค. นี้ และสั่งการให้ สคบ. ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างรัดกุม เช่น พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น รวมถึงตรวจสอบย้อนกลับไปถึงการร้องเรียนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียหายมาร้องเรียนบริษัทดังกล่าวที่ สคบ. อย่างไรก็ตาม ตนได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และเมื่อถึงไทยจะได้หารือแนวทางการตรวจสอบกรณีดังกล่าวร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในโอกาสแรก

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2567 นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภค ด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง (สคบ.)  กล่าวว่า สคบ. เตรียมแก้ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 เพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าที่มีอายุเพียงวันเดียว  เพราะการที่กฎหมายกำหนดไว้ชัดว่าเมื่อแกะสินค้าแล้วไม่สามารถส่งคืนได้ รวมถึงสินค้าหรือบริการที่ใช้ไปแล้วไม่สามารถขอคืนเงินได้ เช่น กรณีคืนตั๋วเครื่องบินหลังเดินทางแล้ว เหตุเพราะไม่พอใจในการใช้บริการ เป็นต้น  สำหรับการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.ขายตรงฯ เพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากขึ้น และอยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะยกมาเป็นประเด็นหารือกันก่อนยกร่าง พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. …. ต่อไป